หนุ่มยะลา ขโมยสร้อยทองเพื่อนร่วมงาน อ้าง ต้องการเงินกลับบ้านที่ภาคใต้ เพราะพ่อป่วย

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 2 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ได้ทำการตั้งด่านสกัดรถมินิบัสประจำทางสายจันทบุรี – กรุงเทพมหานคร  ทั้งนี้ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายที่แจ้งผ่านศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีคนร้ายลักทรัพย์ นั่งมากับรถโดยสารคันต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลจำนวน 10 นาย จึงตั้งจุดสกัดเรียกตรวจรถ   ตามที่ผู้เสียหายประสานคนขับว่าจะขับมาจอดหน้าที่พักสายตรวจหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยไม่ให้ผู้ต้องสงสัยทราบ   ต่อมามีรถมินิบัสสีขาวประจำทางหมายเลขข้างรถ ม.2 จ 9907-9 (ต) ขับมาตามถนนจากอำเภอแกลง ใช้ถนนสาย 344  บึง-แกลง เข้าเขตรับผิดชอบ สภ.บ้านบึง จึงโบกให้จอดรถหน้าที่พักสายตรวจและทำการตรวจค้นจนพบผู้ต้องสงสัยนั่งบนที่นั่งเกือบท้ายสุดฝั่งซ้าย ขอดูบัตรประจำตัวประชาชนและเอารูปถ่ายที่ผู้เสียหายส่งมาให้เปรียบเทียบแล้วพบว่าเป็นคนเดียวกัน จึงทำการนำตัวลงจากรถเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง  ทราบชื่อคือนายมะรอซะตี อายุ 30 ปี เป็นชาวอำเภอกรงปีนัง จังหวัดยะลา
                 
สอบถามผู้ก่อเหตุสารภาพว่า มารับจ้างตัดทุเรียนที่พื้นที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี และมารู้ว่าพ่อที่อยู่ทางใต้ป่วย จึงอยากจะกลับบ้านไปเยี่ยมจึงตัดสินใจก่อเหตุขโมยสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือรวมน้ำหนัก 1 บาท ของนายพัน ชาวกัมพูชา เพื่อนคนงานด้วยกันไป และได้ขี่รถจักรยานยนต์ของหัวหน้าคนงานไปจอดเอาไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง จากนั้นได้หลอกให้คนที่บ้านขับรถไปส่งในตัวเมืองจันทบุรี เพื่อเอาสร้อยคอทองคำไปขาย 1 เส้นได้เงินมา 13,000 บาท และเก็บสร้อยข้อมือ น้ำหนัก 2 สลึง สวมข้อมือเอาไว้  และนำเงินที่ได้ ไปซื้อตั๋วโดยสารจากจันทบุรีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ ฯ ใช้จ่ายไป 300 บาท ยังเหลือเงินสด 12,700 บาท กระทั่งมาถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้ ซึ่งตนเองตั้งใจว่าหลังจากถึงบ้านจะได้ส่งเงินกับสร้อยข้อมือให้เจ้าของคืนโดยส่งทางขนส่งเอกชน 
                    
ด้านนางสาวนิสารัตน์ กับ นายธีธวัฒน์ เจ้าของรถฮอนด้าเวฟสีดำแดง ทะเบียน 1กฒ 3992 จันทบุรี ผู้เสียหายและเป็นหัวหน้าคนงาน  เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกน้องเก่า ที่เคยเรียกใช้มาช่วยตัดทุเรียน กระทั่งหมดฤดูทุเรียนจึงหางานให้มาช่วยตัดแขนงต้นทุเรียน แต่เมื่อวานเห็นบ่นว่าจะกลับไปเยี่ยมพ่อที่จังหวัดยะลา ตนเองกับสามีก็ตั้งใจว่าจะจ่ายค่าแรงให้ในวันรุ่งขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุกับไปพร้อมๆกับรถจักรยานยนต์ของตนเองพยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และเพิ่งมาทราบว่าได้ลักทรัพย์เป็นสร้อยทองของคนงานไป จึงประสานไปยังพี่สาวที่ทำงานอยู่ในท่ารถโดยสาร ให้ช่วยบอกคนขับ ขับรถไปจอดหน้าที่พักสายตรวจเพื่อให้ตำรวจควบคุมตัว จนสามารถจับตัวนายมะรอซะตีเอาไว้ได้ในที่สุด ภายหลังได้ของกลาง กลับคืนได้มอบกระเช้าแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว
                 
ส่วนทาง ดาบตำรวจอโนทัย รอดมา หัวหน้าสายตรวจตำบลหนองชาก สภ.บ้านบึง เปิดเผยว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งก็รีบจัดกำลังเรียกรถโดยสารคันที่ผู้ต้องหานั่งมาจอด เพื่อตรวจค้น ผู้ต้องหาก็ไม่มีท่าทีขัดขืน  โดยที่พบของกลางเงินสด 12,700 บาท สร้อยข้อมือ 1 เส้น กระดาษฟลอยด์ใช้สำหรับเสพสารเสพติด  และทำการตรวจปัสสาวะพบฉี่สีม่วง ซึ่งก็ทำการประสานไปที่ สภ.มะขาม เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป