เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2565 ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุ สภ.หนองขาม จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุสามีภรรยาก่อเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณหอพักข้างตลาดไร่หนึ่ง พลาซ่าหมู่ 11 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาพร้อมด้วย ร้อยตำรวจโทหญิง วรางคณา เกตุอุดมสิน ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองขาม เข้าร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายทราบชื่อคือนายโซมินนัย อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา ได้รับบาดเจ็บบริเวณใต้ราวนมขวาเป็นแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ยาวประมาณ 3 นิ้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบังให้แพทย์ทำการรักษา โดยมีนางสาวเอแซโม อายุ 27 ปี แฟนสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บและ เพื่อนข้างห้องพักเข้ามามุมดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
จากการสอบสวน นางสาวเอแซโม อายุ 27 ปี แฟนสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บ เผยโดยมีล่ามแปลว่า ก่อนเกิดเหตุแฟนหนุ่มได้เดินทางมาหาที่ห้องพักในสภาพที่เมาสุรามาและขอเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นด้วยความเมาจึงเกิดลื่นล้มในห้องน้ำ โดยลำตัวไปกระแทกกับมุมขอบอ่างเก็บน้ำที่อยู่ภายในห้องน้ำได้รับบาดเจ็บ เป็นบาดแผลที่บริเวณใต้ราวนมขวาขนาดใหญ่ หลังจากนั้นนายโซมินนัย ได้เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพท้องชุ่มไปเลือด จึงถามเหตุการณ์ก่อนออกไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลมาทำแผลให้ แต่เลือดยังไหลไม่หยุด จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้เพื่อนชาวกัมพูชาเป็นผู้แจ้ง หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
ด้านร้อยตำรวจโทหญิง วรางคณา เกตุอุดมสิน ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองขาม เผยได้รับแจ้งเหตุจากคนต่างด้าวว่า สามีภรรยาทะเลาะกันแล้วใช้อาวุธมีดทำร้ายมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุก่อน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยทำแผลก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกลับทราบว่า เป็นอุบัติเหตุที่ฝ่ายชายเกิดล้มในห้องน้ำแล้วลำตัวไปกระแทกกับมุมของขอบอ่างเก็บน้ำทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งไม่ตรงกับที่ได้รับแจ้งว่า สามีภรรยาทะเลาะวิวาทกันแล้วใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นการสื่อสารการผิดพลาดเนื่องจากผู้แจ้งเป็นชาวกัมพูชา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาวเมียนมา ก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นคนไทยทำให้การสื่อสารเข้าใจกันผิดกันได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้งพยานหลักฐานให้การตรงกันว่าผู้บาดเจ็บได้เกิดอุบัติเหตุจริง จึงทำการบันทึกไว้และยังไม่ได้ดำเนินคดีกับใครแต่อย่างใด โดยจะรอสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนว่าเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไรต่อไป