“รองผวจ.ชลบุรี”เผยไฟฟ้าลัดวงจรเหตุเพลิงไหม้ผับดังสัตหีบ เมียเสี่ยบียันไม่คิดหลบหนี พร้อมเยียวยาเหยื่อเสียชีวิต-บาดเจ็บ ยอมรับสภาพจิตใจสามีย่ำแย่ ตำรวจแยกขังเดี่ยวเจ้าของผับมรณะ ขณะที่เกิดเหตุระทึก!ไฟไหม้อาคารก.พลังงาน
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.65 นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผวจ.ชลบุรี เปิดเผยภายหลังประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับการเกิดเพลิงไหม้ เมาท์เทน บี ผับ (MOUNTAIN B) หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ใกล้กับเวทีดนตรี หลังจากนั้นได้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนในเรื่องขออนุญาตและสถานที่ตั้งผับ-บาร์ ทางจังหวัดชลบุรีได้ให้ความสำคัญมาตลอด และได้เน้นในเรื่องของความปลอดภัยทั้งสถานที่ ทางหนีไฟ ถังดับเพลิง รวมทั้งกล้องวงจรปิด ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
นายนริศ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ที่เมาท์เทน บี ผับ จึงได้สั่งการให้นายอำเภอประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกตรวจสอบผับ-บาร์ ที่ได้มีการขออนุญาตจากทางจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีประมาณ 500 กว่าแห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เกี่ยวกับการใช้วัสดุอุปกรณ์ โดยเฉพาะวัสดุที่ไวไฟ ห้ามนำเข้ามาติดตั้งในผับ-บาร์ เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้อีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยบี อายุ 27 ปี เจ้าของเมาท์เท่น บี ผับ นำส่งพนักงานสอบสวนในข้อหา 1.ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 2.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวเสี่ยบีเข้าห้องขังทันทีพร้อมกับคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยระหว่างการควบคุมเสี่ยบีมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลาและไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน
โดย นายอนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความของนายพงศ์ศิริ หรือเสี่ยบี เปิดเผยว่า ขณะนี้นายพงศ์ศิริมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ในส่วนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ในเบื้องต้นทางร้านจะมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียชีวิต รายละ 50,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บรายละ 10,000 บาท อยากฝากสื่อมวลชนแจ้งถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ ทั้งญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ สามารถติดต่อเข้ามาได้ทางเพจเฟซบุ๊ก “MountainB” ส่วนเรื่องของคดียังไม่สามารถยื่นประกันตัวนายพงศ์ศิริในชั้นสอบสวนได้ แต่จะไปประกันตัวในชั้นศาล โดยจะมีการยื่นประกันตัวในวงเงิน 1 ล้านบาท ในที่ 8 ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บรรยากาศด้านหน้าสภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ ข.ชลบุรี ยังคงมีสื่อ มวลชนที่เกาะติดทำข่าวเหตุไฟไหม้ร้าน เม้าท์เทน บี ผับ ปักหลักประจำการ ทั้งนี้ยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่จำนวน 15 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 38คน โดยมีผู้บาดเจ็บเข้าข่ายสีแดงจำนวน 8 คน ที่ยังต้องใช้เครื่อง ช่วยหายใจอยู่
สำหรับ นายพงศ์ศิริหรือเสี่ยบีที่ถูกควบคุมอยู่ในห้องขังเป็นคืนแรก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม กล่าวว่า ในช่วงประมาณ 5 ทุ่ม ทางญาติได้นำสิ่งของเครื่องใช้มาฝาก โดยนายบีได้ถูกจับแยกขังเดี่ยว มีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่และสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา กระสับ กระส่ายหลับๆ ตื่นเป็นช่วงๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจตราทุกๆชั่วโมง ซึ่งช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 07.00 น. มีญาตินำอาหารและน้ำดื่มมาฝากให้ ก่อนที่ตำรวจจะเบิกตัวนายพงศ์ศิริออกจากห้องขังมาให้ปากคำเพิ่มเติม
นางอนงค์นารถ อายุ 31 ปี ภรรยาของ เสี่ยบี เปิดเผยว่าในเหตุการณ์วันนั้นร้านก็ได้เปิดให้บริการตามปกติ โดยในส่วนของผู้บริหารทั้งเสี่ยบี และตนมีนัดกันจะเข้าไปเช็กซาวน์ในร้านที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนใหม่ หลังเช็กสต๊อกของเสร็จ ด้วยนัดช่างที่มาทำการติดตั้งไว้แล้ว แต่ปรากฏว่าหลังเข้าไปได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจากบริเวณด้านในก่อนไฟจะลุกลาม จากนั้นจึงจะโกนบอกทุกคนว่าไฟไหม้ให้รีบหลบหนีออกมาด้านนอก พร้อมสั่งการให้พนักงานช่วยเหลือลูกค้าที่ติดอยู่ภายใน โดยตนเองก็พยายามวิ่งเข้าไปร่วมด้วยแต่ขณะนั้นก็เกิดกลุ่มควันดำพวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง
หลังตั้งสติได้ก็ตัดสินใจโทรแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยกู้ภัยและดับเพลิง จนการ์ดของทางร้านได้ตะโกนบอกว่าห้ามเข้าภายในกำลังจะระเบิดจึงวิ่งออกมาหลบด้านนอก ก่อนเกิดการระเบิดขึ้นซึ่งมีเปลวไฟโหมออกมาด้านนอกอย่างรุนแรง จึงเข้าไปหลบในห้องด้านนอก ซึ่งจังหวะนั้นก็มีผู้บาดเจ็บที่ลำตัวมีเปลวไฟวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือจึงพยายามดับไฟและผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ โดยส่วนตัวยอมรับว่าสภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บเห็นแล้วยังรู้สึกทำใจไม่ได้และเหตุการณ์ถือว่าชุลมุนเป็นอย่างมาก กระทั่งหน่วยกู้ภัยมาช่วยดับไฟ
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทั้งสามีและตนก็อยู่และพยายามช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้หลบหนีไปแต่อย่างใด โดยตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นก็อยู่โรงพักมาตลอด 2 วัน ไม่ได้อาบน้ำเนื้อตัวมีแต่กลิ่นไหม้ ขณะที่สภาพจิตใจก็ย่ำแย่เป็นอย่างมาก ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องกราบขออภัยผู้ที่ประสพเหตุและครอบครัวเป็นอย่างมาก ด้วยไม่ได้มีเจตนาให้เหตุการณ์มันเกิดขึ้น ส่วนตนและสามีก็เป็นเพียงแค่คน 2 คน ที่พยายามทำมาหากินเท่านั้น และพร้อมจะรับผิดชอบดูแลทุกอย่างที่สามารถทำได้ แม้ว่าสิ่งที่พูดจะไม่สามารถชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้นได้ก็ตามซึ่งต้องขอโทษจากใจจริงๆ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายว่า ช่วงเวลา 12.35 น. ศูนย์วิทยุพระราม 199 รับแจ้งจากสายด่วน 199 เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในตึก ENCO อาคาร A ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีฯ แขวง-เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุทธิสารจึงได้รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบเกิดเหตุไฟไหม้ ชั้น 33 อาคาร ENCO A ล่าสุด เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว