Chonburi Sponsored

มิจฉาชีพหลอกชาวบ้านเปิดบัญชีม้า กว่า 200 คน

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

สนามข่าว 7 สี – แก๊งมิจฉาชีพออกหากินอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการชักชวนชาวบ้านให้ออกมารับข้าวสารที่แจกฟรี แต่กลับถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้าแบบไม่รู้ตัว

เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น. ชาวบ้านกว่า 200 คน จากตำบลหัวถนน ตำบลหนองปรือ และตำบลสระสี่เหลี่ยม จังหวัดชลบุรี รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พนัสนิคม หลังจากเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทุกคนต่างได้รับแจ้งว่า มีสมาชิกสภาจังหวัดคนหนึ่ง จะลงสมัครสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งหน้า จึงได้นำข้าวสารมาแจกให้ชาวบ้านคนละ 1 ถุง โดยการลงทะเบียนรับข้าวสารจะต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าทุกคน หากใครไม่ทำตามจะไม่ได้รับข้าวสาร ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและทำตาม

ทางผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่ทราบมาก่อนว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า จนมีคนแชร์เรื่องราวคล้าย ๆ ของตนเองผ่านเฟซบุ๊ก ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกเปิดบัญชีม้า จนบางคนเป็นหนี้หลายแสนบาท จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแน่ เลยรวมตัวกันเข้ามาแจ้งความ และเมื่อไปตรวจสอบบัญชีกับธนาคาร ปรากฏว่าเคยมีการใช้ชื่อตนเองแอบอ้างเปิดบัญชีม้าไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เวลาประมาณ 13.00 น. ทาง นายพรชัย วงศ์ล้อมนิล สมาชิกสภาจังหวัด หรือ สจ.ไก่ ผู้ที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้าง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพที่เอาชื่อตนเองไปแอบอ้างว่าจะแจกข้าวสาร โดยยืนยันว่าเนินคดีให้ถึงที่สุด

สจ.ไก่ เปิดเผยว่า จากเมื่อวานได้รับการร้องเรียจากชาวบ้านตำบลหนองปรือ และอีกหลาย ๆ ตำบลในอำเภอพนัสนิคม ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ตนเองก็ยืนยันว่าไม่เคยมีการแจกข้าวสาร แจกแต่หน้ากากอนามัยกับยารักษาโรคเท่านั้น แต่ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบติดต่อไปยังธนาคาร จึงทราบว่ามีการเปิดบัญชีลอยขึ้น ส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นคนในอำเภอพนัสนิคม

ตนเองจึงอยากเตือนประชาชนว่าหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ให้คิดเลยว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพ การเปิดบัญชีม้าอันตรายมาก อยากให้ชาวบ้านรีบติดต่อไปยังธนาคารเพื่อตรวจสอบว่ามีหนี้หรือไม่ ส่วนตัวเองก็จะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีจนถึงที่สุด

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม