กล้องโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 เจ๋งสืบภาค 2 แกะรอยจับคนขี่จยย.ให้มือปืนยิงสาวใหญ่เจ็บ

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผกก.สืบสวน 1 พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา สว.ฯ นำกำลังร่วมกับ พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สืบสวนภ.จ.ชลบุรี จับกุมนายสมพงษ์ หรือหนุ่ม ยินดีสุข อายุ 42 ปี ชาว จ.ชลบุรี พร้อมของกลางกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 3 นัด รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทะเบียน 1กค 7373 ชลบุรี เงินสด 29,440 บาทเหลือจากค่าจ้าง และชุดที่สวมใส่วันก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” ได้ที่หน้าอาคารพาณิชย์ ม.12 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ขณะผู้เสียหาย อายุ 56 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้า จากชลบุรีมุ่งหน้าไปทาง อ.พนัสนิคม มาถึงหมู่ที่ 1 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี มีคนร้ายชาย 2 คนขับขี่รถจยย.ของกลาง มาประกบด้านขวารถของผู้เสียหาย จากนั้นใช้อาวุธปืนยิงใส่รถด้านหน้าฝั่งขวาจำนวนหลายนัดทำให้รถของผู้เสียหายเสียหลักพุ่งตกลงไปในคลองน้ำข้างถนน จากนั้นคนร้ายขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ตรวจสอบพบผู้เสียหายถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวาและหางคิ้วขวาอย่างละ 1 นัด ถูกนำตัวส่ง รพ.พานทอง ต่อมา หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส) กำชับให้ บช.ภ.2 เร่งรัดสืบสวนและจับกุมตัวคนร้ายซึ่งมีพฤติกรรมอุกอาจลักษณะเป็นมือปืนรับจ้างให้ได้โดยเร็ว ทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 จึงสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต พร้อมตำรวจ กก.1 สืบสวน ภาค 2 ร่วมกับ สภ.พานทอง สืบสวนหาตัวคนร้ายโดยแบ่งกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุ ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุอย่างละเอียด จนพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน คือนายสมพงษ์ ผู้ขับขี่รถจยย.และนายศตวรรษ หรืออ๊อด ทองคำ อายุ 46 ปี ผู้ก่อเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุ นายสมพงษ์ ขับขี่รถจยย.มารับนายศตวรรษ ที่หอพักไม่มีเลขที่ ม.6 ถ.บ้านเก่า 5 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยหลังก่อเหตุทั้งสองเดินทางกลับมาที่หอพักแล้วหลบหนีไป จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองต่อศาล และต่อมาสืบสวนติดตามจนพบตัวจึงจับกุมตัวส่ง สภ.พานทอง จังหวัดชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่าสอบสวนนายสมพงษ์ รับว่าก่อนเกิดเหตุ 2 วัน นายศตวรรษ มาชวนให้ทำงานว่ามีงานยิงผู้หญิงโดยนายศตวรรษ บอกจะเป็นคนยิงเองวันเกิดเหตุนั่งดื่มสุราด้วยกันก่อนชวนนายสมพงษ์ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอพักจากนั้นขี่รถจยย.ออกไป ที่พานทองไปถึงเฝ้าจุดยิงประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเห็นผู้หญิงออกมาขึ้นรถยนต์จึงขับตามจนถึงที่เกิดเหตุขับรถยนต์ประกบฝั่งขวาโดยนายศตวรรษ เป็นคนยิงจนหมดแม็กแล้วขี่จยย.หลบหนีไปทางเลียบคลองแล้วจอดรถจยย.ทิ้งหมวกกันน็อกและเสื้อที่ใส่ทิ้งระหว่างทางโดยรับค่าจ้าง 1 แสนบาทแล้วแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายศตวรรษ บอกว่าจะสู้กับตำรวจไม่ยอมถูกจับติดคุก ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ทราบว่าผู้จ้างวานเป็นผู้ใดเพราะนายศตวรรษเป็นคนรับงาน หลังก่อเหตุนายศตวรรษ ไม่ทราบหลบหนีไปไหน ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดและผู้ว่าจ้างต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “คดีนี้คนร้ายก่อเหตุลักษณะเป็นมือปืนรับจ้างยิงผู้หญิงกลางถนนอย่างโหดเหี้ยม เราระดมชุดสืบสวนหาพยานหลักฐานอย่างละเอียด จนพบหลักฐานชิ้นสำคัญส่วนหนึ่งมาจากกล้องวงจรปิดตามโครงการ สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 (Smart Safety Zone 4.0) ของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงสามารถสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายใช้เวลาเพียง 5 วัน ส่วนนายศตวรรษ ทำหน้าที่มือปืนยังหลบหนีอยู่พร้อมอาวุธปืนและประกาศสู้ตายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ และพล.ต.ท.ธิติ กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่โดยเน้นตามหลักยุทธวิธีอย่างเคร่งครัด

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่