“เราต้องสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนให้ปลอดภัย ในฐานะผู้บังคับบัญชาเรามีหน้าที่เตรียมความพร้อมให้พวกเขา ให้กลับไปพบครอบครัวที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ตำรวจไม่ควรต้องสูญเสีย ตำรวจไม่ควรต้องได้รับบาดเจ็บ ตำรวจไม่ควรต้องตายจากการปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป” เป็นสิ่งที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 คาดหวังกับ “โครงการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามก่อนออกปฏิบัติหน้าที่จริง” ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อความปลอดภัยของตำรวจ ประชาชนที่อยู่โดยรอบรู้สึกมั่นใจและได้รับความปลอดภัยจากการปฏิบัติงาน
และเป็นระบบสากล
พล.ต.ต.ธีรเดชได้มีการ “ถอดบทเรียน” เหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่วันที่ 6 ธ.ค.2564 คนร้ายคลั่งใช้อาวุธปืนไล่ยิงตำรวจ สภ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเหตุการณ์วันที่ 22 มี.ค.2564 คนร้ายเกี่ยวข้องยาเสพติด ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.ชิน เก่งศิริ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในพื้นที่ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี
หลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. รับบทครูใหญ่หลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นพิเศษ 5G ส่ง พล.ต.ต.ธีรเดชเป็นหัวหน้าคณะครูฝึกนำเหล่านักสืบ 5G ศึกษาดูงานหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และการใช้อาวุธปืนตามหลักยุทธวิธีในสถานการณ์จริงตำรวจเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ผบ.ตร.กำชับว่าให้นำประสบการณ์และความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนา ปรับประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่กับตำรวจของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้นำข้อดีจากการศึกษาดูงานมาปรับใช้กับการปฏิบัติหน้าที่ได้จริง
พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจภาคสนามเมือง Dallas ทุกคนต้องผ่านการทดสอบการยิงปืนจึงจะสามารถออกไปทำงานได้ ให้สอดคล้องกับอาชญากรรมในปัจจุบันที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มีแนวโน้มการก่อเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตำรวจมีหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรีบเข้าดำเนินการระงับเหตุ และคลี่คลายสถานการณ์ให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด
ผู้ปฏิบัติทุกนายเข้าทดสอบ
เริ่มนำร่องในกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2ให้มั่นใจในการใช้อาวุธปืนเพิ่มขีดความสามารถทางยุทธวิธีในการออกปฏิบัติหน้าที่ ระดับผู้บังคับหมู่-ผู้กำกับการเฉพาะภาคสนามทุกนายเข้าทดสอบ 120 นาย และชุดปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ PCT ชุดที่ 5 ภาคสนาม 20 นาย
จะต้องผ่านเกณฑ์ตามขั้นตอนและวิธีการดำเนินการตามหลักสูตรนี้ จึงถือว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบจริง หากผู้เข้าฝึกอบรมทำการทดสอบ “ไม่ผ่าน” จะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ภาคสนาม
เพื่อสร้างความพร้อมผู้ปฏิบัติงานทุกคน.