ตำรวจสืบ5G รวบ ผู้ต้องหาคดีติดตัว3หมาย ติดแบล็กลิสต์โกงขายพระหลวงพ่อกวย

โชว์ผลงานนักสืบ5G รวบผู้ต้องหาคดีติดตัว 3 หมายจับ พรากผู้เยาว์ ลักทรัพย์และติดแบลคลสิสต์หลอกขายพระหลวงพ่อกวย

สืบเนื่องจาก ครอบครัว น.ส.แอม (นามสมมติ) เข้าแจ้งความดำเนินกับผู้ต้องหา ในความผิดพาบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่ถึง 18 ปี หลังเมื่อกลางปี 2564 ผู้ต้องหารู้จักกับ น.ส.แอม ผ่านแอพพลิเคชั่นติ๊กต็อก นัดเจอและพากันไปเที่ยว เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อมาได้มีเพศสัมพันธ์ร่วมกัน ทำให้ครอบครัวของ น.ส.แอม ประสงค์ให้แต่งงานกัน แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอม ซึ่งภายหลังครอบครัวน.ส.แอม เข้าแจ้งความร้องทุกข์และเรียกเงินค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงินประมาณ 300,000 บาท ผู้ต้องหายินยอมชดใช้เพียง 50,000 บาท และมอบไว้ให้กับครอบครัวน.ส.แอมแล้ว แต่เงินส่วนที่เหลือผู้ต้องหาไม่สามารถหาได้ ทางครอบครัวผู้เสียหายจึงดำเนินคดีต่อ กระทั่งถูกออกหมายจับและถูกจับกุมตัวในที่สุด จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า มีหมายจับค้างเก่าอีก 2 คดี คือ คดีลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน ฯ เมื่อปี 2558 และ คดีลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนหรือรับของโจร เมื่อปี 2559 นอกจากนี้ผู้ต้องหายังถูกขึ้นแบลคลิสต์ในเว็บไซต์เกี่ยวกับการเช็กคนโกง หรือ blacklistseller เนื่องจากเคยหลอกลวงขายภาพหลวงพ่อกวยทางเฟสบุ๊ค เมื่อได้รับเงินแล้ว กลับไม่ส่งภาพให้และไม่สามารถติดต่อได้ 

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้นักสืบ 5 G ช่วงนี้ให้ ระดมลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนติดตามคนร้ายที่เป็นภัยออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังคงก่อเหตุต่อเนื่อง จึงฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อในการหลอกลวงหลายรูปแบบ ขอให้ตรวจสอบทุกครั้งว่าบุคคลที่ท่านติดต่ออยู่ด้วยนั้น ในช่องทางเฟสบุ๊คหรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ เป็นมิจฉาชีพหรือไม่ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้ายเหล่านี้