สยอง 2 หนุ่มซิ่ง จยย.มาด้วยความเร็ว ถึงทางโค้งเบรกไม่อยู่ รถพุ่งเข้าชนกลางลำรถบรรทุกสิบล้อ คนขี่เสียชีวิตคาที่ 1 คนซ้อนท้ายเจ็บสาหัส 1
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 พ.ค.65 พ.ต.ท.วินัย ตระกูลไทย สารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านบึง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก 10 ล้อ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดบนถนนสายบ้านบึงกระโดน – บ้านหนองชัน ฝั่งขาเข้าบ้านบึงกระโดน หมู่ที่ 12 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงเร่งตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัย และแพทย์เวรจากโรงพยาบาลบ้านบึง
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้งและเป็นทางสามแยก พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย มีบาดแผลที่ศีรษะ เลือดออกปาก จมูก ที่หลังเท้าข้างขวามีแผลเปิดขนาดใหญ่ นอนหงายเสียชีวิต ยังไม่ทราบชื่อนามสกุล และสัญชาติ ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายอาการสาหัส ยังไม่ทราบชื่อนามสกุล อายุ ถูกนำตัวส่งรักษาที่ รพ.เป็นการเร่งด่วน ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สแมช สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กก 1791 ระยอง ล้มตะแคงขวางอยู่กลางถนน สภาพรถล้อหน้าบิดเบี้ยวเป็นเลขแปด เสียหายพังยับเกือบทั้งคัน และห่างออกไปประมาณ 30 เมตร ยังพบรถบรรทุกยี่ห้อฮีโน่ หัวสีขาว ทะเบียน 83-0774 ชลบุรี ที่บรรทุกทรายมาเต็มคันรถ จอดหันหน้าเข้าบ้านบึงกระโดนอยู่เลนซ้าย ที่ล้อหลังข้างขวามีร่องรอยถูกชนที่ล้อยางและเหล็กซุ้มล้อ
จากการสอบถาม นายก้อง ทองมั่น อายุ 55 ปี ซึ่งยอมรับว่าเป็นคนขับรถบรรทุกสิบล้อ พร้อมยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เล่าว่า ตนเองขับรถบรรทุกสิบล้อมาบรรทุกทราย และได้ขับมาตามเส้นทางหนองชัน มุ่งหน้าเข้าตลาดบ้านบึงกระโดน เพื่อเอาทรายที่บรรทุกมาไปส่งที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ตัวอำเภอบ้านบึง พอมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง ตนเห็นรถจักรยานยนต์ขับขี่สวนทางมาด้วยความเร็ว ลักษณะส่ายไปมา ก่อนแหกโค้งพุ่งเข้าชนตรงที่ส่วนล้ออย่างแรง จากนั้นตนรีบชะลอรถ และจอดลงมาดู ก็เห็นชายวัยรุ่นนอนแน่นิ่ง ก่อนที่จะมีชาวบ้านเข้ามาดู จนมารู้ว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมกับบันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนี้จะเชิญตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบถามอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนทางด้านผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จะต้องรอให้ผู้บาดเจ็บได้สติก่อน เพื่อจะสอบสวนและติดตามหาญาติเพื่อแจ้งข่าวให้ทราบ และดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป