Chonburi Sponsored

ลงดาบจ่าโท บังคับทหารใหม่กินอสุจิ ทำเสียชื่อร้ายแรง ขัง 30 วัน – ปลดจากราชการ

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

          ลงดาบแล้ว จ่าโท บังคับทหารใหม่กินอสุจิตัวเอง ลงทัณฑ์ขัง 30 วัน ก่อนปลดออกจากราชการ ฐานทำให้เสียชื่อเสียงแก่หมู่คณะทหารอย่างร้ายแรง พร้อมธำรงวินัยผู้บังคับบัญชา

          จากกรณีสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพ ระบุว่าเป็นค่ายทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่าครูฝึกยศจ่าทหารเรือ บังคับให้ทหารกองประจำการผลัดใหม่ กินน้ำอสุจิ โดยต่อมาโฆษกกองทัพเรือออกมายืนยัน เป็นเรื่องจริง โดยเหตุการณ์เกิดในเดือนตุลาคม 2564 ผู้ก่อเหตุคือ จ่าโท ทักษิณ หงอกพิลัย สังกัดกองร้อยบังคับการ กรมรักษาความปลอดภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ซึ่งขณะนั้นเป็นครูฝึกทหารกองประจำการ เบื้องต้นหลังผู้บังคับบัญชาของจ่าโท ทักษิณ ทราบเรื่องก็สั่งย้ายไปแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน

          อ่านข่าว : ทหารเรือ ยอมรับ จ่าทักษิณ สั่งทหารเกณฑ์กินน้ำอสุจิตัวเอง เตรียมลงทัณฑ์สูงสุด

          ล่าสุด (30 เมษายน 2565) เฟซบุ๊ก โฆษกกองทัพเรือ รายงานว่า พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงผลการสอบสวนกรณีดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา กรมรักษาความปลอดภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้รายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

          พบว่า จ่าโท ทักษิณ ได้กระทำความผิดจริง จึงให้ลงทัณฑ์ขัง จ่าโท ทักษิณ มีกำหนด 30 วัน ฐานทำให้เสียชื่อเสียงแก่หมู่คณะทหารอย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีผลตามระเบียบกองทัพเรือ คือปลดออกจากราชการ

          ในส่วนของผู้บังคับบัญชาของ จ่าโท ทักษิณ ทางหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้มีคำสั่งให้ธำรงวินัยผู้บังคับการกรมรักษาความปลอดภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นเวลา 7 วัน และให้ธำรงวินัยผู้บังคับกองร้อยกองบังคับการและบริการ กรมรักษาความปลอดภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นเวลา 15 วัน ในฐานะผู้บังคับบัญชาขึ้นไป 2 ระดับของผู้กระทำความผิดวินัยทหาร

          ทั้งนี้ พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบนโยบายในเรื่องการปกครองดูแลทหารใหม่เพื่อเตือนใจผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้นไว้ คือ ผู้บังคับบัญชา ของกองทัพเรือทุกระดับชั้น ต้องคิดว่าพลทหารที่มาอยู่กับเราเป็น “น้องคนเล็ก” ปลูกฝังให้มีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ ความเป็นทหาร และเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ ให้ฝึกบนพื้นฐานความปรารถนาดีต่อกัน การลงโทษ ให้ทำเฉพาะเท่าที่จำเป็น ต้องไม่มีการลงโทษเกินขอบเขต กลั่นแกล้ง และทำร้ายร่างกาย หากพบ จะลงโทษอย่างเด็ดขาด

ขอบคุณข้อมูลจาก โฆษกกองทัพเรือ

Chonburi Sponsored
อำเภอ สัตหีบ

ช่วงประมาณรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 สัตหีบเป็นเพียงหมู่บ้านชายทะเล ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา หาของป่า และประมง การคมนาคมจะใช้ทางน้ำโดยเรือเมล์หรือเรือใบ ส่วนทางบกมีแต่ทางเกวียน ถนนไปชลบุรียังไม่มี ภูมิประเทศส่วนใหญ่ยังเป็นป่ารกทึบ การเดินทางระหว่างเมืองจึงใช้เรือเป็นหลัก ในหมู่บ้านสัตหีบ มีผู้ที่ชาวบ้านนับหน้าถือตามากอยู่คนหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "ยายแจง" แกมีฐานะดีมี ที่ดิน เรือ สวน ไร่นามากมาย ตลาดสัตหีบ หนองตะเคียนและโรงเรียนสิงห์สมุทรรวมถึงบริเวณเขาแหลมเทียนอันเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือสัตหีบในปัจจุบันก็เคยเป็นของแก ต่อมา เมื่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทรงฝึกภาคทะเลกับกองเรือและทรงพักที่อ่าวสัตหีบ ทรงเห็นว่าอ่าวสัตหีบเหมาะเป็นที่ตั้งหน่วยเรือ เพราะมีเกาะใหญ่น้อยช่วยกำบังคลื่นลม พระองค์จึงได้บอกถึงพระประสงค์ที่จะใช้บริเวณเขาแหลมเทียนเป็นที่ตั้งหน่วยทหารเรือ ยายแจงก็ยินดีที่จะถวายให้