ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – “ไอ้เบส” ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวชิงทองในห้างฯกลางเมืองโคราช ยอมเปิดปากเพิ่มบอกจุดซ่อนทองแห่งที่ 2 พบสร้อยทองของกลางอีก 17 เส้น น้ำหนักรวม 51 บาท มูลค่ากว่า 1,674,840 บาท รวมของกลางได้คืน 47 เส้น น้ำหนักรวม 141 บาท เหลืออีก 4 เส้น คาดฝากเพื่อนขายที่ จ.ชลบุรี
วันนี้ ( 16 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายกิตติพงศ์ แพไธสง อายุ 28 ปี หรือ “เบส” คนร้ายควงปืนปลอมบุกเดี่ยวก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้-โลตัส สาขา นครราชสีมา ถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้สร้อยคอทองคำไปจำนวน 51 เส้น น้ำหนักรวม 153 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.6 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้คาห้องพักโรงแรม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 15 เม.ย. และสอบสวนติดตามยึดทองคำรูปพรรณของกลางคืนมาได้ 28 เส้น น้ำหนักรวม 84 บาท ผู้ต้องหานำไปฝังดินไว้หลังบ้านพักของภรรยา ที่บ้านใหม่ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และ เงินสดติดตัวผู้หาอีกจำนวน 110,000 บาท นั้น
ล่าสุดวันนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ นายกิตติพงศ์ แพไธสง อายุ 28 ปี หรือ “เบส” ผู้ต้องหา อย่างหนัก ทำให้ผู้ต้องหายอมสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้นำทองคำของกลาง อีกส่วนหนึ่งใส่ถุงพลาสติกไปซุกซ่อนไว้ในป่าละเมาะ บริเวณใกล้เคียงกับจุดแรกที่ตำรวจขุดพบทองคำ จำนวน 28 เส้น ภายในบริเวณหลังบ้านเลขที่ 12 หมู่ 12 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าของผู้ต้องหา โดยที่ผู้ต้องหาไม่ได้บอกให้ใครรู้
จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนตำรวจ ตำรวจภูธรภาค 3 และ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้คุมตัว นายกิตติพงศ์ ผู้ต้องหาไปค้นหาสร้อยคอทองคำที่นำไปซุกซ่อนไว้เพิ่มเติม พบว่า จุดที่ผู้ต้องหานำทองคำไปซุกไว้อยู่บริเวณใต้โคนต้นไม้หลังบ้านและใช้ใบไม้กลบเอาไว้ ห่างจากจุดแรกประมาณ 25 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำพบถุงพลาสติกดังกล่าวออกมาพบภายในมีสร้อยคอทองคำจำนวน 17 เส้น น้ำหนักรวม 51 บาท คิดเป็นมูลค่าเนื้อทองคำ เป็นเงิน 1,598,8850 บาท และ คิดเป็นมูลค่าทองรูปพรรณ 1,674,840 บาท
ทำให้ขณะนี้สามารถติดตามทองคำที่ถูกชิงไปคืนมาได้แล้วจำนวน 47 เส้น น้ำหนักรวม 141 บาท แยกเป็นฝังดินไว้จุดที่ 1 จำนวน 28 เส้น จุดที่ 2 จำนวน 17 เส้น และอีก 2 เส้น มีประชาชนชาว อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา เก็บได้บริเวณถนนเลียบนคร เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ที่ผู้ต้องหาทำหล่นขณะหลบหนี จึงยังคงเหลือสร้อยคอทองคำของกลางยังไม่ได้คืน อีก 4 เส้น คาดผู้ต้องหาได้นำให้เพื่อนไปขายที่ จ.ชลบุรี ขณะไปหลบซ่อนตัวในโรงแรมแล้ว