Chonburi Sponsored

อ้างเป็น พนง.การไฟฟ้าจะตัดมิเตอร์ไฟ พอถูกจับได้ยกมือไหว้ทันที!

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

(8 ม.ค. 65) นี่เป็นภาพจากกล้องที่ทางผู้เสียหายได้ถ่ายชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมแขนยาวข้างหลังเขียนว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สวมหมวกแก๊ป ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแล้วมาบอกว่าบ้านนี้ค้างค่าไฟฟ้า จะตัดหม้อมิเตอร์ ทางเจ้าของบ้านไหวทันจึงเอากล้องมือถือขึ้นมาถ่าย พอรู้ตัวว่าถูกถ่ายก็รีบแก้ตัว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ จ.ชลบุรี  เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ตำบลหมอนนาง  อำเภอพนัสนิคม  จังหวัดชลบุรี เป็นบ้านของนางสุคนธรส สิงหาพรหม เจ้าของบ้าน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนัสนิคม ให้มาตรวจสอบว่าก่อนหน้านี้มีคนอ้างตัวว่าเป็นพนักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอพนัสนิคม  มาบอกว่าที่บ้านค้างชำระค่าไฟฟ้าแล้วจะมีการตัดหม้อมิเตอร์ ทั้งที่บ้านไม่เคยค้างชำระค่าไฟฟ้า จึงได้ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงได้สอบถามชายคนดังกล่าว ทราบชื่อจริงคือ นายมลเทียน อายุ  39 ปี  มีท่าทางพิรุธบอกว่าเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  จะมาเตือนบ้านหลังดังกล่าวว่าค้างชำระค่าไฟ  เมื่อเค้นสอบจึงได้ติดต่อไปยังนายจ้าง และนอมรับว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทหนึ่งที่รับเหมาติดตั้งและเดินสายไฟ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดหม้อมิเตอร์แต่อย่างใด

นางสุคนธรส ผู้เสียหายเผยว่าตอนแรกเข้ามาแจ้งว่ามิเตอร์จะถูกตัด แจ้งกับเด็กที่บ้าน   ทางเด็กจึงไปบอกพ่อ แล้วออกมาดูจึงถ่ายวิดีโอเอาไว้ แล้วสอบถามชื่อ ตอนแรกบอกว่าชื่อ  กวินเอก  พอดูบัตรประชาชนชื่อมลเทียน เบื้องต้นก็ส่อว่าไม่บริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว  ปกติทางการไฟฟ้าไม่มีการมาแจ้งว่าจะตัดไฟ ถ้าค้างเขาก็ตัดเลย  แต่ถ้าเกิดวันนี้มีคนแก่อยู่  สแกนจ่ายไม่เป็น ต้องจ่ายเงินสดไปจะรู้มั้ยว่าจ่ายใครไป  ซึ่งค่าไฟที่ใช้ไปถึง  3 พันกว่าบาท 

หลังจากที่ถูกจับได้ทางชายคนดังกล่าว ก็ยกมือไหว้ขอโทษกับเจ้าของบ้าไม่ให้เอาเรื่องตนเอง  ทางเจ้าของบ้านจึงส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนนคดีตามกฎหมายต่อไป

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม