ห่วงสูงวัยติดเชื้อดับ นายกฯสั่งเจอผลบวกส่งเข้ารักษารพ.ทันที หลังคลัสเตอร์สูงอายุโผล่หลายจว.

ห่วงสูงวัยติดเชื้อดับ

นายกฯสั่งเจอผลบวกส่งเข้ารักษารพ.ทันที

หลังคลัสเตอร์สูงอายุโผล่หลายจว.

กำชับห้ามการ์ดตกสกัดติดเชื้อพุ่ง

ศบค.จ่อเพิ่มมาตรการรับสงกรานต์

นิวไฮดับพุ่ง92/ป่วยรวม5หมื่นราย

ทุบสถิติรายวัน! เซ่นโควิดพุ่ง 92 ศพ โคม่าขยับ 1,828 รายติดเชื้อรายใหม่ 28,379 ราย ตรวจ ATK 22,331 ราย รวมติดกว่า 5 หมื่นอีกครั้ง นายกฯสั่งด่วนปรับระบบคัดกรองผู้ป่วย ถ้าเป็นกลุ่ม 608 ให้ส่งรักษาในรพ.ทันที ลดเสี่ยงเสียชีวิต เริ่มแล้วยกเลิก RT-PCR ก่อนเข้าปท.72 ชม.ทุกกลุ่ม กำชับทุกฝ่ายเข้มปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ลั่นพร้อมรับผิดชอบร่วมกันหากเกิดอะไรขึ้น ย้ำปชช.การ์ดอย่าตก ช่วยกันชะลอติดเชื้อ มหาดไทยยันพร้อมทำตามมาตรการสกัดโควิด-19 รอฟัง ศบค. 8 เมษายนเคาะมาตรการสงกรานต์เพิ่ม สธ.ย้ำ กลุ่ม608จัดเป็นป่วยสีเหลืองรักษาได้ทุกรพ. ย้ำครองเตียงเกิน80%ขยายพิ่มได้ ขณะที่สถานการณ์ระบาดหลายจังหวัดน่าวิตก เกิดคลัสเตอร์บ้านพักคนชราที่โคราช อุบลฯสูงอายุดับมากกว่า 60% ส่วนใหญ่รับเชื้อมาจากชุมชนไปติดในครอบครัว เปิดด่านสะเดา สงขลารับนทท.วันแรกคึกคัก

เมื่อวันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานภาพรวมสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด – 19ที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่อีกระลอก ติดเชื้อเพิ่ม2ระบบ50,710คน

ศบค.ระบุว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 28,379 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากในประเทศ 28,317 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 62 ราย ผู้ป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) จำนวน 1,433,291 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากผลแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK)อีก 22,331 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อทั้งสองระบบเพิ่มอีก 50,710 คน หายป่วยกลับบ้าน 23,843 ราย หายป่วยสะสม (ตั้งแต่1มกราคม 2565) รวม 1,211,796 ราย กำลังรักษา 251,214 ราย

ตายนิวไฮ92-กทม.ติดเชื้อสูงสุดในปท.

มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 92 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 25,222 รายสำหรับจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,828 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 24 ราย อัตราครองเตียงร้อยละ 29.4 สำหรับ 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่สูงสุด ประกอบด้วย 1. กรุงเทพมหานคร (กทม.)เพิ่มขึ้น 3,350 ราย ตามมาด้วยชลบุรี 1,352 ราย นครศรีธธรมราช 1,259 ราย สมุทรปราการ 933 ราย สมุทรสาคร 854 ราย สงขลา 744 ราย ขอนแก่น 726 ราย นนทบุรี 716 ราย ราชบุรี 701 ราย และนครปฐม 698 ราย

ฉีดวัคซีนสะสม129ล.โดส

ขณะที่รายงานภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิดสรุปจำนวนผู้ได้รับได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 31 มีนาคม 2565 รวม 129,782,808 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 55,587,780 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 50,323,916 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม 21,691,865 โดส และผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 สะสม 2,179,247 โดส

นายกฯสั่งแยกกลุ่ม608ป่วยส่งรพ.ทันที

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีสั่งการให้ฝ่ายปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดปรับระบบคัดแยกผู้ป่วยโควิด-19 หากพบว่าเป็นกลุ่ม 608 กล่าวคือ ผู้สูงอายุเกินหกสิบปี ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และเด็กเล็กให้ดำเนินการประสานเพื่อส่งตัวไปรับการรักษาที่สถานพยาบาลทันที ไม่ต้องรอรักษาตามอาการ เพื่อลดการสูญเสีย ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้จำนวนผู้ป่วยโควิด – 19 และเสียชีวิต โดยมากเป็นผู้ป่วยกลุ่ม 608 อย่างตัวเลขวันนี้ ผู้เสียชีวิต 92 ราย เป็นผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และเด็กเล็ก รวม 86 ราย คิดเป็น 93% ขณะนี้ ศบค. สาธารณสุข และ สปสช. อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับเข้าสู่การคัดแยกตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี

ปลดล็อคเพื่อดึงนทท.-ย้ำการ์ดอย่าตก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงกรณีศบค.มีมติปรับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ประเภท Test & Go , Sandbox และ Alternative Quarantine ให้ยกเลิกการตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าประเทศ ลดระยะเวลาเดินทางเข้าไทยในรูปแบบ Sandbox เหลือ 5 วัน พร้อมปรับรูปแบบตรวจหาเชื้อเมื่อมาถึงประเทศไทยและระหว่างพำนักในประเทศ รวมทั้งปรับลดการกักตัวเหลือ 5 วัน จากเดิม 7 วัน สำหรับนักเดินทางที่มาแบบ Sandbox และ Quarantine เริ่มวันนี้ (1 เมษายน)วันแรกนั้น นายกฯกำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่เข้มงวด ตามแนวทาง Covid Free Setting พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ดูแลตนเองขั้นสูงสุด อย่าการ์ดตก ปฏิบัติตัวเองตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการระบาด ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งเพื่อดึงดูด นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่รัดกุมขั้นสูงสุด

ลั่นรับผิดชอบร่วมกันเลิกRT-PCR

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกรณีก่อนเทศกาลสงกรานต์จะลงพื้นที่ถนนข้าวสารก่อนหรือไม่ว่า เรื่องการท่องเที่ยวมอบหมายให้ศบค.พิจารณาแล้วว่า จะให้ได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใด ขนาดนี้เราก็ปลดล็อคให้หลายอย่าง วันนี้ก็ยกเลิก ตรวจ RT-PCR สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมา เราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะภายในประเทศเตรียมการตั้งรับไว้เต็มที่ ตนฟังทั้งสองข้างอะไรที่ปลดล็อคได้ก็ปลด แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นทำกันใหม่ นี่คือความยากง่าย เพราะเราบริหารคนเป็นล้าน

ลุ้น8เมย.เคาะมาตรการสงกรานต์เพิ่ม

ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 ช่วงสงกรานต์ว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือศบค. มีแนวทางปฏิบัติอยู่แล้ว ต้องให้พื้นที่ทั้งหมดปฏิบัติตามแนวทางที่ ศบค.กำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดกระจาย และประชาชนต้องให้ความร่วมมือด้วย ส่วนจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ ให้รอการประชุม ศบค. วันที่ 8 เมษายน จากนั้นจะแจ้งไปในพื้นที่เรื่องการปฏิบัติตัว อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่มีกลไกปฏิบัติตามกฎหมาย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่ดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ยืนยันทุกคนทำงานเต็มที่ เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ งานปีใหม่ของไทยนี้ได้ประโยชน์ทั้งเรื่องงานตามประเพณีและการควบคุมโรค หวังว่าคงจะไม่แพร่ระบาดจนเกินความสามารถของสาธารณสุขประเทศ เชื่อว่าสังคมจะอยู่ด้วยความเรียบร้อย

กลุ่ม608จัดเป็นป่วยสีเหลืองรักษาได้ทุกรพ.

ที่กรมการแพทย์ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)แถลงถึงแนวทางดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิดกลุ่มเสี่ยง 608 ว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ติดเชื้อค่อนข้างมาก อย่างการตรวจ ATK มีจำนวนมากกว่าที่รายงาน เนื่องจากบางรายตรวจเชื้อเอง และไม่ได้ติดต่อเข้าสถานพยาบาล อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตเป็นตัวเลขที่เราจับตามอง เนื่องจากตัวเลขผู้เสียชีวิตยังพบในกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุมาก จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันในกลุ่มนี้ ซึ่งนายกฯระบุกลุ่ม 608 เมื่อป่วยโควิดขอให้ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันทีซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ UCEP Plus ให้ถือว่าเป็นกลุ่มสีเหลืองรักษาได้ทุก รพ. ทุกสิทธิ รพ.ไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้ หากปฏิเสธ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) จะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ในส่วนเอกชน ส่วนกลุ่มสีแดงสามารถเข้าได้ตามสิทธิยูเซปพลัส อยู่แล้ว

ย้ำครองเตียงเกิน80%ขยายพิ่มได้

นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ใช้เตียงของประเทศ ทั้ง 13 เขตสุขภาพ ในกลุ่มอาการระดับ 2.1 และ ระดับ 2.2 ยังมีอัตราเตียงเพียงพอ โดยระดับเตียง 2.1 มีอัตราครองเตียงอยู่ที่ 29.9% และระดับ 2.2 มีอัตราครองเตียง 21.9% ดังนั้น ในระดับเขตสุขภาพยังมีเตียงเพียงพอ ส่วนรายจังหวัดที่มีการระบาดมาก 10 จังหวัดนั้น มีบางจังหวัดที่อาการระดับ 2.1 และ 2.2 ที่อยู่ในระดับสีเหลืองมีผู้ครองเตียงระดับ 2.1 ในอัตรา 59.47% ส่วนระดับ 2.2 อยู่ที่ 66.67% และระดับ 3 อยู่ที่ 92.31 จึงเสนอสป.ไปว่าขอให้เตรียมเตียงเพิ่มกับภาคีเครือข่าย โดยหากพื้นที่ไหนอัตราครองเตียงระดับ 2 .1 และ 2.2 ขึ้นไปเกิน 80% สามารถขยายเพิ่มเติมได้ เป็นไปตามเกณฑ์ที่เครือข่ายหารือร่วมกัน

“ตามเกณฑ์ยูเซปพลัส กลุ่มสีเหลืองเข้ารักษาในรพ.ได้ ซึ่งกลุ่ม 608 เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะป่วยหนักและเสียชีวิต แต่ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์ว่า รักษาในรพ.ได้หรือไม่หรือรักษาที่บ้าน เพราะบางรายอาการแข็งแรง แม้ป่วยโควิดและไม่อยากนอนรพ. จึงขอให้แพทย์ร่วมประเมินกับคนไข้ว่า มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ โดยหลักรพ.ปฎิเสธไม่ได้ หากเป็นไปตามเกณฑ์ยูเซปพลัส แต่หากเตียงเต็มก็ต้องประสานเครือข่ายในพื้นที่”นพ.สมศักดิ์กล่าว

น่าห่วงคลัสเตอร์บ้านพักคนชราโคราช

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในหลายจังหวัดยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง มีคลัสเตอร์ใหม่น่าเป็นห่วง อย่างที่จ.นครราชสีมา สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์(วัดม่วง) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ฯ 71 คน ติดโควิดแล้ว 58 ราย เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 38 คน ติดเชื้อแล้ว 11 ราย ผู้สูงอายุที่ติดเชื้อจะถือเป็นผู้ป่วยสีเหลือง เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 608 เป็นผู้สูงอายุและป่วยติดเตียง ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อตรวจสอบอาการแล้ว เป็นผู้ป่วยสีเขียว อาการไม่มากหรือไม่แสดงอาการ

นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ได้ประสานให้สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลมหาราชฯ ตรวจประเมินสถานการณ์ และขอ ศบค.จังหวัดฯ ให้ใช้สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์วัดม่วง เป็นศูนย์ CI ซึ่งจะมีแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลมหาราชฯ มาดูแลสอบถามอาการ โดยให้พยาบาลวิชาชีพ 2 คน ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงอยู่ที่สถานสงเคราะห์ฯ คอยประเมินสถานการณ์ และวิดีโอคอลรายงานให้โรงพยาบาลมหาราชฯทราบทุกวัน เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและให้การรักษาตามอาการ หากพบผู้ติดเชื้ออาการหนักขึ้น จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชฯ ได้ทันที อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยอาการรุนแรงหรือกลุ่มเสี่ยงเพิ่ม เพราะได้ทำBubble and Seal แยกพื้นที่กักตัว รวมถึงตรวจ ATK ซ้ำ

ป่วยทะลุ2,205ดับอีก1จับตา4 คลัสเตอร์

ด้านนายชูศักดิ์ ชุณเกาะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาแถลงสถานการณ์ระบาดในพื้นที่

ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อยืนยันรายใหม่ทั้ง 2 ระบบ ยังสูงถึง 2,205 ราย วันนี้มีผู้ป่วยเสียชิต 1 ศพ ทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 76 ราย ทั้งนี้ จังหวัดให้ความสนใจการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ เพราะเป็นช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะคลัสเตอร์สถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้เฝ้าระวัง 4 คลัสเตอร์ อาทิ คลัสเตอร์ สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์วัดม่วง ต.ในเมือง อ.เมือง คลัสเตอร์ รับจ้างขุดมัน ต.ขุย อ.ลำทะเมนชัยฯ ผู้ป่วย 19 ราย คลัสเตอร์หมู่ 8 ต.ประทาย อ.ประทายฯ ผู้ป่วย 21 ราย คลัสเตอร์ หมู่ 1 บ้านหนองบัวนาค ต.โนนเพ็ด อ.ประทายฯ ผู้ป่วย 19 ราย

อุบลฯติดโอมิครอนพุ่ง3อ.อ่วม

ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า ยังพบผู้ป่วยโควิดจากการตรวจ ATKวันละกว่า 3,000 คน ใน 3 อำเภอพบการระบาดสูงสุด ส่วนการจัดสงกรานต์คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเตรียมกำหนดมาตรการ กิจกรรมใดที่จัดได้เพื่อไม่ให้กระทบยอดการระบาดที่ยังสูง คณะกรรมการ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 อุบลราชธานี ยังตั้งจุดตรวจ ATK ให้ประชาชนที่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงในอ.เมืองและอ.วารินชำราบ หลังพบผู้ป่วยทั้งจังหวัดสูงวันละกว่า 3,000 ราย ต่อเนื่องมา 5 วัน ล่าสุดพบผู้ป่วย 3,691 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน โดยเป็นผู้ป่วยสูงอายุ 75-95 ปี และผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว ทั้งนี้ ในอ.เมือง วารินชำราบ และเดชอุดม เป็นการติดเชื้อในครอบครัว และรับเชื้อมาจากชุมชน ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี ประกาศให้ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงระบาด

บุรีรัมย์วันเดียว593กระจาย19อำเภอ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ รายงานสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ประจำวันพบว่า มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 593 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมผู้ป่วยสะสมติดเชื้อระลอกมกราคม 27,215 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 33 ราย หายป่วยสะสม 21,391 ราย และยังรักษาอยู่ 5,791 ราย กระจายตามโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ กระจายอยู่ใน 19 อำเภอ จาก 23 อำเภอ ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 3,350 ราย เป็นรายใหม่ 120 ราย และรายเก่า 3,230 ราย

เปิดด่านสะเดาวันแรกคึกคัก

วันเดียวกัน ที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคัก หลังเปิดด่านพรมแดนวันแรก เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนผ่าน Thailand pass หลังจากที่มีคำสั่งปิดต่อเนื่องมากกว่า 2 ปี จากสถานการณ์ระบาดโควิด -19 เมื่อด่านฯเปิดตั้งแต่เวลา 05.00 น. มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย ทยอยเดินทางผ่านข้ามด่านพรมแดนสะเดาเข้ามา ซึ่งลงทะเบียนสำหรับผ่าน Thailand pass ที่ 107 คน โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศ ทุกคนต้องแสดงเอกสารหนังสือเดินทาง เอกสารการรับวัคซีน รวมทั้งหลักฐานการจองและชำระเงินโรงแรม SHA Extra plus ก่อนเข้ารับบริการตรวจ RT PCR หลังตรวจเสร็จนักท่องเที่ยวต้องเดินทางเข้าพักภายในโรงแรมทันที จนกว่าจะทราบผลตรวจ ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง หรือทางโรงพยาบาล จะแจ้งผลให้ทราบในเวลา 06.00 น. ของวันถัดไป หากไม่พบเชื้อสามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวได้ตามระบบ test & go แต่นักท่องเที่ยวยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดาเผยว่า บรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่มีปัญหาติดขัดเรื่องเอกสารการเดินทาง และลงทะเบียน เพราะนักท่องเที่ยวบางรายไม่ทราบรายละเอียดว่าต้องลงทะเบียนแบบไหน ยมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วเอกสารไม่ผ่านต้องเดินทางกลับไปหลายรายเหมือนกัน