สธ.เตือนสงกรานต์ห้ามการ์ดตก เสี่ยงติดวันละแสน ‘บิ๊กตู่’สั่งผู้ว่าฯ-สสจ.เตรียมรับมือ

สธ.เตือนสงกรานต์ห้ามการ์ดตก

เสี่ยงติดวันละแสน

‘บิ๊กตู่’สั่งผู้ว่าฯ-สสจ.เตรียมรับมือ

ย้ำยังต้องยึดมาตรการสธ.เข้มข้น

ยอดป่วยรวมATK5.2หมื่น/ดับ69

กทม.3.7พัน‘นนท์-ปทุม’ติด10จว.

ไทยติดเชื้อใหม่ 26,050 ราย ATK พุ่งอีก 26,655 ราย รวมติดเชื้อใหม่ 52,705 รายเสียชีวิต 69 ศพ ป่วยปอดอักเสบสูง 1,619 ราย กทม. ทะลุ 3.7 พัน “นนทบุรี-ปทุมธานี”พุ่งติดท็อปเทน สธ.เตือนช่วงสงกรานต์ หากไม่ระวังอาจเจอติดเชื้อวันละแสนราย วอนช่วยกันสกัดไวรัสร้ายนายกฯ กำชับ ผู้ว่าฯ และ สสจ. เตรียมพร้อมรับ ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา ย้ำทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารสุขเข้มข้น ขณะที่ผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ร้อง “บิ๊กตู่” ขอจัดเล่นน้ำบนถนน พร้อมเสนอมาตรการป้องกันโควิดรัดกุม ยันใส่เฟซชิลด์สาดน้ำได้

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 ศูนย์ข้อมูล COVID-19รายงานสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,050 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 26,014 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 36 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 63 อยู่ที่ 3,477,030 ราย หายป่วยใหม่ 22,219 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 อยู่ที่ 3,208,271 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 244,111 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,619 ราย (ใส่เครื่องช่วยหายใจ 630 ราย) และเสียชีวิต 69 ราย รวมเสียชีวิตสะสมตั้งแต่ ปี2563-ปัจจุบัน 24,648 ราย โดยในผู้เสียชีวิต 69 ราย มีผู้เสียชีวิตอายุน้อยที่สุด 11 เดือน อายุมากที่สุด 96 ปี ขณะที่กรุงเทพฯ พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด 16 ราย รองลงมา คือ ปทุมธานี 5 ราย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานข้อมูลผลการตรวจ ATK ข้อมูลเมื่อเวลา 10.26 น. พบผลตรวจ ATK เพิ่มขึ้นอีก 26,655 ราย โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ที่อยู่ที่ 26,050 ราย จึงทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างไม่เป็นทางการอยู่ที่ 52,705 ราย

กทม.ป่วยมากสุดวันเดียว3.7พันราย

10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่สูงสุด ดังนี้ 1.กรุงเทพ 3,739 ราย 2.นครศรีธรรมราช 1,645 ราย 3.ชลบุรี 1,090 ราย 4.สมุทรปราการ 902 ราย 5.สมุทรสาคร 831 ราย 6.ร้อยเอ็ด 655 ราย 7.นนทบุรี 647 ราย 8.ระยอง 576 ราย 9.บุรีรัมย์ 556 ราย 10.ปทุมธานี 535 ราย

ที่น่าสนใจ คือ นนทบุรี 647 ราย เพิ่มขึ้นจากวานนี้499 ราย และ ปทุมธานี 535 ราย เพิ่มขึ้นจาก 350 ราย ขยับอยู่ในอันดับ 10 ของประเทศ ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยที่สุดคือชัยนาท 4 ราย

สธ.เผยคนยังกังวลโควิดสูง

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แถลงว่า ในอีก 3 สัปดาห์จากนี้จะเข้าสู่ช่วงสงกรานต์ ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เฉลี่ย 2 หมื่นรายต่อวัน หลายคนจึงวิตกกังวล ซึ่งผลสำรวจของอนามัยโพล (Anamai Event Poll) ระหว่างวันที่ 13-24 มีนาคม 2565 ประเด็นความกังวลต่อสถานการณ์ พบ กังวลร้อยละ 77 เหตุผลที่กังวลมากสุดคือ อาจติดเชื้อจากการรวมกลุ่มในสถานที่ต่างๆ ตามด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศยังสูงอยู่ และอาจติดเชื้อจากการรวมกลุ่มสังสรรค์ในครอบครัว/บ้าน ส่วนไม่กังวล ร้อยละ 23 เพราะมั่นใจป้องกันตนเองได้ดี ไม่ได้ไปสถานที่เสี่ยง และอยากใช้ชีวิตตามปกติ

มองร้านอาหารเป็นสถานที่เสี่ยงที่สุด

ส่วนสถานที่ที่ประชาชนกังวลจะมีความเสี่ยงสูงที่สุดคือ ร้านอาหาร ร้อยละ 61 ตามด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ร้อยละ 55 ห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 54 สถานที่จัดกิจกรรมอีเว้นต์งานสงกรานต์ ร้อยละ 53 ขนส่งสาธารณะ ร้อยละ 53 ห้องน้ำสาธารณะ ร้อยละ 52 ส่วนแผนกิจกรรมที่จะทำช่วงสงกรานต์ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 50 อยู่บ้าน ร้อยละ 34 ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระที่วัด ร้อยละ 31 รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และ ร้อยละ 22 สังสรรค์กินข้าวกับครอบครัว/เพื่อน

ทั้งนี้ หากพิจารณาสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้คาดว่ายังคงมีการระบาดต่อเนื่อง และจะอยู่ในระดับสูงคงตัวช่วงเทศกาล เนื่องจากมีการเคลื่อนผู้คนจำนวนมาก มีกิจกรรมทั้งในครอบครัวและนอกบ้าน และมีกิจกรรมเสี่ยง จะพบผู้ติดเชื้อทั้งรายบุคคลและเป็นกลุ่มก้อนจากผลพวงจากเทศกาลสงกรานต์

เตือนไม่ระวังอาจติดวันละแสนคน

“หากเราดำเนินมาตรการได้ดีทั้ง Covid-19 free settings และมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด ไม่ย่อหย่อนในมาตรการ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ตามฉากทัศน์จะอยู่ระหว่างเส้นสีเขียวถึงเส้นสีเหลือง คือ วันละ 2-5 หมื่นราย แต่หากเราไม่ดำเนินมาตรการต่างๆ รวมถึงผ่อนคลายการป้องกันโรค ก็จะพุ่งเป็นเส้นแดงถึงแสนรายต่อวันได้ แต่เชื่อมั่นในมาตรการต่างๆ ที่เราดำเนินการอย่างเคร่งครัดจะสามารถรับมือได้ ต้องฝากเน้นย้ำการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด หลีกเลี่ยงไปสถานที่เสี่ยงหรือทำกิจกรรมเสี่ยง และตรวจ ATK เมื่อสงสัย โดยเฉพาะกลุ่มที่น่าเป็นห่วงสุดคือ ผู้สูงอายุที่มีลูกหลานกลับไปเยี่ยม และกลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง ขอให้รับวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

แจงกิจกรรมทำได้-ไม่ได้

นายสมชาย ตู้แก้ว ผู้อำนวยการกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า กิจกรรมที่สามารถจัดได้ภายในชุมชน ต้องแจ้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) หรือ ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) รับทราบเพื่อกำกับติดตามอย่างเหมาะสม เช่น สรงน้ำพระ โดยขอให้นำอุปกรณ์ส่วนตัวไปเอง งดนำน้ำที่สรงแล้วไปใช้ต่อ ทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัว สำหรับกิจกรรมรวมกลุ่มขนาดใหญ่ จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร เช่น ประเพณีหรือการละเล่นท้องถิ่น ขบวนแห่ เล่นน้ำ การแสดงดนตรี และการแสดงทางวัฒนธรรม

ส่วนกิจกรรมที่ห้ามทำคือ ปาร์ตี้โฟม ประแป้ง ดื่มหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การร่วมกิจกรรมต่างๆ ให้ยึดหลัก Covid-19 free settings มาตรการ DMHTA อย่างเคร่งครัด หลังกลับจากเทศกาลให้สังเกตอาการตนเอง 7-10 วัน ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTA หากพบมีอาการมีความเสี่ยงให้ตรวจ ATK ผลเป็นลบให้ตรวจซ้ำเมื่อครบ 7 วัน หรือมีอาการ เลี่ยงพบปะผู้คนโดยไม่จำเป็น และทำงานที่บ้าน

จัดงานสงกรานต์ต้องขอ ศบค.

นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม แนะนำการจัดงานกิจกรรมช่วงสงกรานต์ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค.กำหนดอย่างเคร่งครัด อนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์เฉพาะในพื้นที่จัดงานที่มีการควบคุมเท่านั้น ส่วนในปีนี้จะสามารถจัดเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารและถนนข้าวเหนียว ได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องขออนุญาตไปทาง ศบค.

นายกฯย้ำต้องยึดมาตรการเข้ม

ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ทุกพื้นที่ เตรียมพร้อมมาตรการรองรับประชาชนที่จะเดินทางข้ามจังหวัด ทั้งกรณีเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง โดยทุกคนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะการพบปะผู้สูงอายุ ร่วมกิจกรรมตามประเพณีและการรวมกลุ่มในครอบครัว เช่น การรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ขอให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา งดการสัมผัสใกล้ชิด จัดกิจกรรมให้มีการระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน ตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ที่สำคัญคือการที่ต้องให้ผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 รีบเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์และรับวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็วด้วย

สำหรับการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชน ศาสนสถาน ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ การสรงน้ำพระ การละเล่น การแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรี ฯลฯ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อให้การเฉลิมฉลองของประชาชนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์เป็นไปอย่างมีความสุข สนุกสนาน อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอย่างอบอุ่นและปลอดภัย

ผู้ประกอบการ‘ข้าวสาร’ขอจัดเล่นน้ำ

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่อาคาร 26 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ขอพิจารณาให้ผ่อนผันการเล่นน้ำบนถนนข้าวสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า กรณีที่ ศบค.ได้มีมติเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกำหนดให้พื้นที่จัดงาน สงกรานต์ตามประเพณี ต้องขออนุญาตจัดงาน ซึ่งจะอนุญาตให้เล่นน้ำและจัดงานตามประเพณีได้ โดยต้องปฏิบัติตาม มาตรการ COVID Free Setting ส่วนพื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนนต่างๆ ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม นั้น

เสนอ4มาตรการป้องกันเข้ม

นายสง่า กล่าวว่า ทางสมาคมฯ จึงได้จัดประชุมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร และได้มีมติที่ประชุมให้เสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดกิจกรรมสงกรานต์ ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนี้ 1. หากได้จัดงาน สงกรานต์ประจำปี 2565 นี้ จะเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีสงกรานต์ของถนนข้าวสาร รวมถึงเพื่อเป็นการ ประชาสัมพันธ์ และสื่อสารให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้ว่าถนนข้าวสาร ยังคงไว้ซึ่งการท่องเที่ยว และการจัดงานตามประเพณี

2.จะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจส่วนรวมของประเทศ จนถึงเศรษฐกิจระดับรากหญ้า รายได้ที่จะเข้าประเทศในช่วงเดือนเมษายน คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท โดยผู้ประกอบการในถนนข้าวสารและพื้นที่ใกล้เคียงจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้น และอาจกระจายรายได้ไปยังกลุ่มที่อยู่นอกเหนือจากถนนข้าวสารได้

3.โดยสถานการณ์ปกติการเตรียมงานสงกรานต์จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน แต่ในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการออกระเบียบการเกี่ยวกับงานสงกรานต์ชัดเจน ซึ่งหากต้องขออนุญาตจัดงานอาจจะล่าช้าและเตรียมตัวจัดงานไม่ทันเวลา จึงขอเสนอให้ทาง ศบค.โปรดสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พื้นที่ถนนข้าวสารสามารถจัดงานสงกรานต์ในถนนคนเดินได้

4.จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการในถนนข้าวสาร ในการจัดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยควบคุมและปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting กล่าวคือ กําหนดช่องทางเข้าออกจากงาน และจัดจุดคัดกรองโรค, ควบคุมความหนาแน่นในพื้นที่จัดงาน (1 ต่อ 4 ตารางเมตร), ผู้ที่จะเข้ามาในถนนข้าวสาร ต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม เว้นระยะห่าง โดยสวมหน้ากากหน้ากากอนามัย และเฟซชิลด์ตลอดเวลาที่อยู่ในงาน งดประแป้ง ไม่มีการจัดปาร์ตี้โฟม

จัดจุดตรวจคัดกรองก่อนเข้างาน

นายสง่า กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในถนนข้าวสาร ได้มีมตินำร่องให้การเข้าถนนข้าวสารจะต้องผ่านจุดคัดกรอง และตรวจ ATK บริเวณทางเข้า โดยการทำหนังสือ เสนอโครงการและขออนุญาตต่อสํานักงานเขต คือ 1.จุดทางเข้าถนน ข้าวสารฝั่งถนนจักรพงษ์ (วัดชนะสงคราม) และ 2.จุดทางเข้าฝั่งถนนตะนาว 3.บริเวณทางเข้าทั้งหมดตามซอย ตามภาพถ่ายจุดคัดกรองโรคเข้าถนนข้าวสาร จึงยืนยันได้ว่า ถนนข้าวสารสามารถจัดกิจกรรมในถนนควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมโรคได้ ด้วยเหตุผลตามข้อเสนอแนะดังที่กล่าวมาข้างต้น ทางสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร จึงขอให้พิจารณามีคำสั่งผ่อนผันให้จัดงานสงกรานต์ในถนนข้าวสารได้ โดยเร่งด่วน

คาดเงินสะพัดมากถึง1พันล้าน

นายสง่า กล่าวว่า ทางเราได้เสนอมาตรการควบคู่ไปด้วย รวมถึงการกำหนดจำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ การเล่นน้ำจะไม่มีกิจกรรมการตั้งเวทีหรือดีเจ เพื่อจะได้ไม่เป็นจุดรวมตัวกัน สำหรับการกำหนดจำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ในพื้นที่ถนนข้าวสาร 400 ตารางเมตรสามารถรองรับได้ 5,000 คน ไม่นับรวมผู้ที่อยู่ในอาคาร เมื่อนับหัวและท้ายครบจำนวน ก็จะเปิดเป็นรอบ ๆ ไป เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดกิจกรรมได้ เพราะเมื่อประเมินถึงรายได้ที่ปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4 วัน จะมีรายได้ 50 – 80 ล้านบาท ทั้งนี้ หากเปิดให้จัดกิจกรรมเล่นสงกรานต์บนถนนข้าวสารจะสามารถสร้างเศรษฐกิจภาพรวมได้ถึง 1,000 ล้านบาท และยังส่งผลดีต่อพื้นที่รอบข้างด้วย

“รัฐบาลได้แต่ห้ามอย่างเดียว ถือว่าทำร้ายประชาชนเกินไป เราเจ็บตัวมาแล้วกว่า 2 ปี ทั้งนี้หากถนนข้าวสารสามารถจัดกิจกรรมได้ตามปกติ ก็อาจจะนำไปใช้เป็นโมเดลกลับพื้นที่อื่น ส่วนที่มีการท้วงติงเรื่องของผู้ติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ ย้ำว่าวันนี้ตัวเลขยอดติดเชื้อก็กระโดดอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้การประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น สามารถทำควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้” นายสง่า กล่าว

ทบ.เข้ม‘เกณฑ์ทหาร’ป้องกันโควิด

กองทัพบก (ทบ.) แจ้งว่า การตรวจเลือกทหารกองประจำการ ประจำปี 2565 จะเริ่มตั้งแต่ 1–20 เม.ย.65 ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 กองทัพบกโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก ได้เตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับการตรวจเลือกทหารในปีนี้ไว้อย่างรัดกุม กระชับ เน้นการปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคที่สอดคล้องกับมาตรการของสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ มุ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับการตรวจเลือก โดยได้กำหนดจำนวนผู้เข้ารับการตรวจเลือกไม่เกิน 500 คน/วัน สถานที่ทำการตรวจเลือกโล่ง โปร่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่างๆ แบ่งพื้นที่แต่ละขั้นตอนให้เป็นสัดส่วน และทำความสะอาดฆ่าเชื้อสถานที่ก่อนและหลังการตรวจเลือกในทุกวัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดการตรวจเลือก

เริ่มกักตัวคณะกรรมการตรวจเลือกแล้ว

สำหรับขั้นตอนการตรวจเลือกจะมีการคัดกรองผู้เข้าเกณฑ์เสี่ยงหรือเข้าข่ายเฝ้าระวัง การแยกพื้นที่เพื่อทำการตรวจคัดเลือกเฉพาะ ทั้งนี้ หากผู้เข้ารับการตรวจเลือกมีประวัติเสี่ยงหรือมีอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ต้องแจ้งคณะกรรมการตรวจเลือกทันที รวมทั้งขอให้เตรียมข้อมูลประวัติการรับวัคซีนโควิด-19 มาด้วย

ล่าสุด กองทัพบกได้เริ่มมาตรการกักตัวคณะกรรมการตรวจเลือกและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีกำหนด 7 วัน และตรวจ ATK เพื่อให้ปลอดเชื้อ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจเลือกที่จะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย.นี้ โดยคณะกรรมการตรวจเลือกจะอยู่ในพื้นที่ควบคุมตลอดการตรวจเลือกเป็นเวลาประมาณ 30 วัน

ชลบุรีติดเชื้อยังแรงเกิน1พันตาย1

สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ 1,090 ราย ( RT-PCR) 1. คนที่พักอาศัยใน จ.ระยอง เข้ามารักษาใน จ.ชลบุรี 53 ราย สะสม 4,117 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,284 ราย 2. คลัสเตอร์ บริษัท ไทย เอ็นโอเค จำกัด อ.เมืองชลบุรี 8 ราย สะสม 33 ราย 3.คลัสเตอร์ บริษัท โตโยด้า โกเซ (ประเทศไทย) จำกัด อ.พานทอง 3 ราย สะสม 59 ราย 4.อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 21 ราย 5.บุคลากรทางการแพทย์ 30 ราย 6.ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด (จังหวัดยโสธร 1 ราย) 7.สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน จากในครอบครัว 260 ราย จากสถานที่ทำงาน 67 ราย บุคคลใกล้ชิด 55 ราย ร่วมวงสังสรรค์ 2 ราย 8.สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 28 ราย 9.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 562 ราย

โคราชป่วยให้เฉียด2พันราย

ที่ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ. นครราชสีมา นายแพทย์สมบัติ วัฒนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดต่อร้ายแรงในพื้นที่ 32 อำเภอ พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,979 ราย ป่วยสะสม 51,843 ราย รักษาอยู่ 22,952 ราย รักษาหาย 29,420 ราย เสียชีวิตสะสม 71 ราย

เฝ้าระวัง10คลัสเตอร์

ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด10คลัสเตอร์ดังนี้ 1.คลัสเตอร์ลูกจ้างโรงงานปริ้นเตอร์ (Canon) อ.สูงเนิน 2.คลัสเตอร์โรงงานทอกระสอบ หมู่ 3 ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว 3.คลัสเตอร์ร้านอาหารและรีสอร์ท ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง 4.คลัสเตอร์งานบวช บ้านหนองหัวช้าง หมู่ 7 ต.เสมาใหญ่ อ.บัวใหญ่ 5.คลัสเตอร์ บ้านหนองปรือพัฒนา ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม 6.คลัสเตอร์ อบต. บัวลาย อ.บัวลาย 7.คลัสเตอร์งานศพ บ้านหลุบกุง หมู่ที่ 10 ต.โนนจาน อ.บัวลาย 8.คลัสเตอร์บ้านดอนสั้น หมู่ 4 ต.ดอนมัน อ.ประทาย 9.คลัสเตอร์บ้านคอกหมู หมู่ 10 ต.ดอนมัน อ.ประทาย 10.คลัสเตอร์ต.ดอนมัน อ.ประทาย

ระยองติดเชื้อใหม่576ไม่มีผู้เสียชีวิต

ศูนย์ปฏิบัติการฯ โควิด-19 ระยอง รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดระยองว่า วันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตอีกวัน โดยมียอดผู้ติดเชื้อเสียชีวิตสะสมระลอกใหม่ 37 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อรายวันพบเพิ่ม 576 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมละลอกใหม่เพิ่มเป็น 71,364 ราย หายป่วยแล้ว 70,797 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อ 8 อำเภอ โดยพบสูงสุดอยู่ใน อ.เมืองระยอง 304 ราย รองลงมามี อ.ปลวกแดง 83 ราย อ.นิคมพัฒนา 60 ราย อ.บ้านฉาง 29 ราย อ.บ้านค่าย 21 ราย อ.แกลง 20 ราย อ.เขาชะเมา 5 ราย อ.วังจันทร์ 3 ราย ต่างจังหวัดเข้ามารักษาตัว 51 ราย มีผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศติดเชื้อ 1 ราย มียอดฉีดวัคซีน 1,994,954 เข็ม มียอดจองวัคซีน 577,646 คน