เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 9 มี.ค.65 น.ส.ธัชสุภา วณิชยกุลวงศ์ อายุ 33 ปี พร้อมด้วยญาติได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม หลังจากที่พ่อมารักษาตัวโรคโควิด แต่ได้หายไป
จากการสอบถาม น.ส. ธัชสุภา วณิชยกุลวงศ์ อายุ 33 ปี เล่าว่า นาย ธีระ ระงับโจร อายุ 66 ปี พ่อของตนเองป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์และเข้ารักษาตัวที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย หรือ เนอร์สซิ่งโฮม ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2565 คุณพ่อติดโควิดที่เนอร์สซิ่งโฮม ทางเนอร์สซิ่งโฮม ได้พาตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลปทุมธานี ต่อมาวันนี้ 7 มีนาคม 2565 ช่วงเวลาประมาณ 18:30 น.ทางโรงพยาบาลปทุมธานี โทรมาแจ้งว่าพ่ออาการไม่ดี ให้เข้ามาดูที่โรงพยาบาล ตนเองและญาติไปถึงที่โรงพยาบาลก็พบว่า คนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ใช่พ่อของตนเอง แต่ชื่อที่เตียงนั้นเป็นชื่อของพ่อ เราจึงบอกกับทางโรงพยาบาลว่าคนนี้ไม่ใช่พ่อเรานะ ผิดหรือเปล่า เพราะเอกสารเป็นชื่อของพ่อเรา อาจเป็นว่าสารอาหารไม่มี คนไข้หน้าอาจจะเปลี่ยนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วว่าพ่อของตนเอง จะจำไม่ได้เลยเหรอ ซึ่งทางพยาบาลก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเอกสารได้มาแบบนี้
ตนเองได้สอบถามว่า คนที่นอนอยู่บนเตียงเป็นใคร โดยโทรไปหาพี่เลี้ยงของพ่อ ซึ่งทางพยาบาลพี่เลี้ยงก็บอกว่าไม่ใช่พ่อของหนู เพราะพี่เลี้ยง เลี้ยงพ่อมา 7 ปี ที่เนอร์สซิ่งโฮม ซึ่งตนเองก็ถามว่าพอรู้จักลุงคนนี้ไหมคะ เพราะที่เนอร์สซิ่งโฮมส่งมามีคนอื่นด้วย ซึ่งพี่เลี้ยงได้ส่งรูปมาให้ดู ตนเองก็ได้สอบถามชื่อว่า คุณลุงที่นอนอยู่บนเตียงชื่ออะไร ตนเองก็ได้ชื่อมาว่าลุงบุญหนา ซึ่งเราได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับเจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม ซึ่งทางเจ้าของเขาบอกว่าลุงบุญหนา ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 เพิ่งเผาเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 วัดหงส์ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ด้วยโรคโควิด
ซึ่งตนเองก็แปลกใจว่า ถ้าคุณลุงเสียชีวิตไปแล้ว แล้วคนที่นอนอยู่ใคร แล้วพ่อตนเองหายไปไหน ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ตรวจสอบแล้วว่า คุณลุงบุญหนา เสียชีวิตไปแล้ว ปัจจุบันก็ยังหาคุณพ่อไม่เจอ ซึ่งตนเองก็ถ่ายรูปไปให้ลูกของคุณลุงบุญหนาดู ซึ่งเขาก็บอกว่าเป็นพ่อของเขาจริงๆ และทางโรงพยาบาลนำศพใครไปเผา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงพยาบาลปทุมธานี ต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจน รวมถึงการรักษาด้วย ถ้ารักษาสลับกันแบบนี้ พ่อของตนเองไม่มีโรคประจำตัว แค่ติดโควิดอย่างเดียว ส่วนลุงบุญหนา มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว และตนเองก็ไม่ทราบว่าเขารักษากันแบบไหนถึงผิดพลาดกันได้ขนาดนี้
ณ ปัจจุบันลุงบุญหนา ยังใช้ชื่อนายธีระ ระงับโจร นอนอยู่ที่เตียง ซึ่งเป็นชื่อพ่อของตนเอง หลังลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2565 ซึ่งทางโรงพยาบาล ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย ขณะนี้ทางโรงพยาบาล ได้เชิญตนเองเข้าไปคุยพร้อมบอกว่าได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว
ด้านนายแพทย์ยรรยง เสถียรภาพงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลปทุมธานี สรุปสถานการณ์ ในเบื้องต้น กรณีการระบุตัวผู้ป่วยผิดพลาด เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 เวลา 18.14 น. หอผู้ป่วย 1/5 ได้รับผู้ป่วยโควิด 2 คน คือ นายบุญหนา ศรีปราช และ นายธีระ ระงับโจร จากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเอกชน (ไม่ปรากฏชื่อ อยู่แถวหมู่บ้านเมืองเอก จังหวัดปทุมธานี) เป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถสื่อสารได้ ให้อาหารทางสายยางทั้งสองราย รับเข้าดูแลในห้องผู้ป่วยห้องเดียวกัน 2 เตียง (เตียงเลขที่ 901 คือ นายธีระ , เตียงเลขที่ 902 คือ นายบุญหนา)
ต่อมาวันที่ 20 มกราคม 2565 เวลา 04.00 น. ทางหอผู้ป่วยแยกโรค 1/5 ต้องเตรียมรับผู้ป่วยหนักรายอื่น จึงได้ทำการเตรียมย้ายผู้ป่วย 2 รายดังกล่าว ไปหอผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรวม (3/3) และด้วยผู้ป่วยทั้ง 2 รายนี้ มีสภาพอาการใกล้เคียงกันและย้ายในเวลาใกล้เคียงกัน จึงคาดว่าน่าจะมีการสลับชื่อผู้ป่วย แต่ผู้ป่วยทั้ง 2 รายยังได้รับการรักษาตามอาการของแต่ละคน ระหว่างนั้นหอผู้ป่วยได้สื่อสารกับญาติของผู้ป่วยทั้ง ๒ ราย เป็นระยะๆ ทางโทรศัพท์ตามอาการที่บันทึกในเวชระเบียน เนื่องจากไม่สามารถให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด
จนวันที่ 23 มกราคม 2565 เวลา 16.00 น. ผู้ป่วยรายหนึ่งมีอาการทรุดลงและเสียชีวิต ซึ่งชื่อตามเวชระเบียนและใบมรณะบัตรที่ออก คือ นายบุญหนา ศรีปราช จึงได้ประสานแจ้งญาติ ชื่อคุณตู๋ บุตรสาว นายบุญหนา ศรีปราช มารับศพและได้จัดการศพตามมาตรการโควิด คือ บรรจุศพลงในถุงซิปล็อก 2 ชั้น ญาติไม่สามารถเปิดดูสภาพศพและใบหน้าผู้เสียชีวิตได้ ซึ่งญาติไปดำเนินการตามพิธีการทางศาสนาที่วัดหงส์ปทุมวาส จังหวัดปทุมธานี ซึ่งหลังจากฌาปนกิจ ได้มอบกระดูกไว้ให้ญาติไปเก็บไว้ที่บ้าน ณ จังหวัดชลบุรีและลอยอังคารที่อำเภอสัตหีบส่วนหนึ่ง
ส่วนผู้ป่วยอีกหนึ่งรายชื่อตามเวชระเบียนคือ นายธีระ ระงับโจร ซึ่งมีอายุ 65 ปี เท่ากัน และสภาพอาการป่วยติดเตียงและสื่อสารไม่ได้ ให้อาหารทางสายยางเช่นกัน มีอาการโควิดดีขึ้น และพ้นระยะแพร่กระจายเชื้อ แต่ยังมีภาวะแทรกซ้อนปอดอักเสบ จึงได้ทำการย้ายไปรักษาต่อที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชายเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. และได้มีการแจ้งอาการกับญาติเป็นระยะๆ โดยญาติไม่ได้รับการอนุญาตเข้าเยี่ยม (เนื่องจากมาตรการโควิด)
ต่อมาวันที่ 7 มีนาคม เวลา 19.35 น. ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบ ทรุดลง ทางหอผู้ป่วยอายุรกรรมชายจึงติดต่อญาติ และญาติได้เข้ามาเยี่ยมวันที่ 7 มีนาคม 2565 เวลา 20.30 น. ลูกสาวคนที่สอง (ชื่อแพท) มาเยี่ยมผู้ป่วยและถามว่าผู้ป่วยอยู่เตียงไหน และมาเยี่ยมที่เตียงผู้ป่วยหมายเลข 25/1 ได้คุยอาการกับพยาบาลว่าขอปรึกษาพี่สาว (ชื่อแจน) ก่อน เมื่อพี่สาวมาถึงเวลา 21.00 น. พบว่าผู้ป่วยที่นอนอยู่ไม่ใช่บิดาของตน และยืนยันด้วยบัตรประชาชนที่ชัดเจนว่าหน้าคนในบัตรไม่เหมือนกันกับคนที่นอนอยู่ ซึ่งบัตรประชาชนชื่อคุณธีระ ระงับโจร จึงสันนิษฐานว่าคุณธีระ ระงับโจร ตัวจริงน่าจะเสียชีวิตไปแล้วในนามของคุณบุญหนา ศรีปราช ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงโดยละเอียดต่อไป