ผู้ว่าฯ ตราด ลงพื้นที่ตรวจสอบ “โรงแรมโซเนวาคีรี เกาะกูด” หลังเหตุไฟไหม้ ตำหนิการช่วยเหลือ-เคลื่อนย้ายคนเจ็บล่าช้า ทั้งที่ค่าห้องพักราคาเกือบล้าน ด้านโรงแรมยันช่วยเหลือเต็มที่ แจงเหตุเลือกใช้เรือแทนเครื่องบินเคลื่อนย้ายคนเจ็บ พฐ.เผยเจอซากนาฬิกาหรูแล้ว
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าฯ ตราด ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุไฟไหม้โรงแรมโซเนวาคีรี ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด พร้อมด้วย นายพีระ เอี่ยมสุนทร ปลัดจังหวัดตราด นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด นางสุกัญญา กองอ้น ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดตราด (คปภ.ตราด) และ พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวตราด โดยมี นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอเกาะกูด และนายเดชาธร จันทร์อบ นายก อบต.เกาะกูด นายมนัส ปรุงทำนุ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและควบคุมอาคาร สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตราด ให้การต้อนรับ
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ว่าฯ และคณะ ตรวจสอบอาคารที่ถูกไฟไหม้ในโซนวิลล่า 63 ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน 6 หลัง ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด 5 หลัง เป็นห้องพักหรู 3 หลัง อาคารรวม 1 หลัง และบ้านพักพนักงานอีก 1 หลัง คงเหลือเพียงหลังเดียวที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทัน
ด้าน ผู้ว่าฯ ตราด ได้กล่าวขณะตรวจสอบถึงการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บว่า เหตุไฟไหม้ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการค่อนข้างหนัก ส่วนโรงแรมก็ให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บค่อนข้างล่าช้า ไม่นำขึ้นเครื่องบินส่งรักษา แต่ใช้วิธีเดินทางด้วยเรือแทน ทั้งๆ อัตราค่าห้องพักราคาเกือบล้านบาท
ด้าน เจ้าหน้าที่โรงแรมฯ กล่าวชี้แจงถึงการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บว่า โรงแรมพยายามช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างเต็มที่ ทั้งการปฐมพยาบาลและการนำตัวไปรักษา เนื่องจากการใช้เครื่องบินเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ผู้บาดเจ็บอาการหนักจึงเลือกใช้เรือในการเดินทางแทน และดูแลผู้เสียหายเป็นอย่างดี ส่วนค่าห้องนั้นก็ไม่คิด และติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องเกิดเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ชี้แจง เพราะต้องการหารายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ตัวแทนบริษัทประกันจะเดินทางมาตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย และจะต้องรอการตรวจหลักฐานต่างๆ ในเวลาไม่เกิน 30 วัน ส่วนเรื่องมาตรการพัฒนาตรวจสอบและปรับปรุงระบบแจ้งเตือนภัยนั้น ทางโรงแรมจะทำการปรับปรุงพัฒนา และหาสาเหตุการไม่แจ้งเตือนขณะเกิดเหตุดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ทนงค์ ทองประดับเพชร ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ชลบุรี) ตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวถึงผลการตรวจสอบของทีมพิสูจน์หลักฐาน ว่า จากการเข้าเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณห้องพักของเจ้าของนาฬิกาหรูราคากว่า 20 ล้านบาทที่สูญหายนั้น พบซากนาฬิกาถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด เหลือเพียงกรอบและตัวเรือนเล็กน้อย ส่วนแหวนเพชรและทรัพย์สินอื่นๆ ของนักท่องเที่ยวที่อาจตกค้างตามกล่าวอ้างนั้น เจ้าหน้าที่จะเร่งช่วยกันค้นหาต่อไป.
