Chonburi Sponsored

ฮือฮา เจ้าของฟาร์ม หอบเงิน 6.5 ล้าน ซื้อควาย พ่อพันธุ์ “เจ้าทองสุข” แพงสุดในไทย

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

ชลบุรี ฮือฮา เจ้าของฟาร์ม หอบเงิน 6.5 ล้าน ซื้อควาย พ่อพันธุ์ “เจ้าทองสุข” แพงสุดในไทย เจ้าของควายเผย ประกวดชชนะมาหลายเวที

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชัยยันต์ ฟาร์ม เลขที่ 82/12 หมู่ที่ 3 ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี มีการซื้อขายควายประกวดสวยงาม ตัวละ 6,500,000 บาท โดยนายชัยยันต์ พูลพัฒนาทรัพย์ อายุ 37 ปี เจ้าของควาย เพศผู้ อายุ 2 ปี 11 เดือน ชื่อ เจ้าทองสุข พาไปดูควายที่เลี้ยงไว้ในคอก ลักษณะตัวสูง เป็นควายที่ตัวใหญ่กว่าควายวิ่ง มีลักษณะสวยงามเด่นสง่า

จากนั้น นายสมพงษ์ สมบัติหอม หรือ หมอพงษ์ อายุ 32 ปี เจ้าของวิทลัยฟาร์มศูนย์รีดน้ำเชื้อมาตรฐาน จ.มหาสารคาม ได้แห่ขบวนขันหมาก โดยที่มีเงินจำนวน 6.5 ล้านบาท ไปสู่ขอเจ้าทองสุข เพื่อนำกลับไปเป็นพ่อพันธุ์ ให้กับควายของเกษตรกรของจ.มหาสารคาม และทางภาคอีสาน ที่บรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เนื่องจากเป็นความที่แพงที่สุดในประเทศไทย

จากการสอบถามนายชัยยันต์ เจ้าของควายเผยว่า ตนได้มีการเลี้ยงควายไว้เพื่อประกวด กว่า 10 ตัว ที่ก่อนหน้านี้ ปลายปี 63 ก็ได้มีการขายไปแล้ว 1 ตัว ราคา 3 ล้าน 5 แสนบาท ส่วนเจ้าทองสุข เป็นควายที่ชนะเลิศการประกวดงานกระบือแห่งชาติ ชิงถ้วยพระราชทานมาแล้ว

และชนะได้แชมป์รุ่นฟันน้ำนม ทั้งที่ จ.สกลนครและจ.เพชรบูรณ์ จนทำให้สร้างชื่อเสียง และมีการมาติดต่อขอซื้อ เพื่อนำไปรีดน้ำเชื้อขายให้กับกลุ่มเกษตรกร จึงอยากที่จะเชิญชวน ว่าหากเลี้ยงควายสวยงาม ลงทุนหลักหมื่น แต่อาจจะได้กับมาหลักแสน ถึงหลักล้านบาท

ด้านทางนายสมพงษ์ ผู้ที่มาซื้อควาย กล่าวว่า ฟาร์มของตนเอง มีพันธุ์ควาย จำนวน 40 ตัว มีพันธุ์วัว กว่า 60 ตัว ที่ 1 อาทิตย์ จะทำการรีดน้ำเชื้อมาขายให้เกษตรกร ได้ 200-300 หลอด ที่มีการขายหลอดละ 1,000 บาท และก่อนหน้านี้ มีการติดตามเจ้าทองสุข มากว่า 1 ปี เนื่องมีความถูกใจ

เป็นควายสมบูรณ์สวยงาม จึงติดต่อขอซื้อจากชัยยันต์ฟาร์ม มีการตั้งตั้งราคาไว้ 7.5 ล้านบาท จึงได้เจรจาต่อรองเหลือ 6.5 ล้านบาท เมื่อทางเจ้าของตกลง ก็มีการโอนเงินมัดจำบางส่วน ซึ่งถือว่า เป็นที่แพงที่สุดตั้งแต่ซื้อมา และยังทราบว่าแพงที่สุดในไทย ที่เคยมีการซื้อขายกันอีกด้วย

Chonburi Sponsored
อำเภอ บ้านบึง

“บ้านบึง” มีการตั้งถิ่นฐาน ลักษณะพื้นที่อำเภอบ้านบึง โดยทั่วไปเป็นป่าทึบนานาพรรณ มีต้นไม้ต่างๆ และสัตว์ป่านานาชนิดได้อาศัย มีชุมชนที่เป็นหมู่บ้านตั้งเรียงรายกันเป็นระยะๆ ห่างไกลกันพอสมควร และมีอาชีพทางการเกษตรกรรม เช่น ปลูกพืชไร่ จับสัตว์ป่ายังชีพ พื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองบ้านบึงในปัจจุบัน เป็นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง โดยทั่วไปมีชาวบ้านเรียกกันว่า “มาบ” เป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ชุมชนดังเดิมได้ใช้สอยมาตลอด และสายน้ำไหลมาจากภูเขานั้นก็ไหลไปยังอำเภอพานทองอีกสายหนึ่ง