ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ลองหา ทะเลใกล้กรุงเทพ ไปพักผ่อน สูดกลิ่นอายทะเลให้ชื่นปอดกันดีมั้ย เกาะสีชัง ที่เที่ยวชลบุรี นี่แหละใช่เลยสำหรับการไปพักผ่อนชิลๆ สักคืน 2 คืน และแน่นอนว่าสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อไป เที่ยวเกาะสีชัง คือการไปถ่ายรูป ชมวิวสวยๆ ที่ สะพานอัษฎางค์ แลนด์มาร์คสุดคลาสสิกประจำเกาะ ไม่มาก็เหมือนมาไม่ถึงเกาะสีชังเลยแหละ ไปดูกันค่ะว่าสะพานแห่งนี้เขามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง
ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เลยทีเดียวค่ะ สำหรับ สะพานอัษฎางค์ แห่งนี้ เป็นสะพานไม้สีขาวสุดคลาสสิกที่ทอดยาวเข้าไปยังกลางทะเล ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ พระราชวังพระจุฑาธุชราชฐาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง หลายคนอาจรู้จักสะพานแห่งนี้ในฐานะแลนด์มาร์คของเกาะ เป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของท้องทะเลได้แบบพาโนรามา อีกทั้งยังเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ของนักถ่ายภาพ แต่สะพานแห่งนี้กลับเป็นที่รู้จักในฐานะ “สะพานแห่งรัก” เช่นกัน จะมีที่มาที่ไปอย่างไร ไปดูกันค่ะ
สะพานอัษฎางค์ นับเป็น 1 ใน 5 สิ่งก่อสร้างบนเกาะสีชังที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2434 เวลานั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางเดชาวุธฯ มีอาการประชวนจึงจำเป็นที่จะต้องประทับอยู่ที่เกาะสีชัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงต้องเสด็จพระราชดำเนินยังเกาะสีชังอยู่บ่อยครั้ง ยามนั้นพระองค์ทรงมีพระราชดำริทำนุบำรุงเกาะสีชังให้เจริญยิ่งขึ้น จึงมีการก่อสร้างต่อเติมสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย รวมถึง สะพานอัษฎางค์ เป็นท่าเทียบเรือเพื่อให้ราษฎรขาวเกาะสีชังสามารถเดินทางได้สะดวก ไม่ต้องฝ่ากาบหอยหรือหินแหลมคมนั่นเองค่ะ
Inoprasom / Shutterstock.com
ชื่อของ สะพานอัษฎางค์ ตั้งตามพระนามของ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางเดชาวุธฯ ส่วนที่ผู้คนขนานนามให้สะพานแห่งนี้ว่า “สะพานแห่งรัก” นั้นมาจากการที่ พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีความรักและห่วงใยต่อชาวเกาะสีชัง สะพานแห่งนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์นั่นเองค่ะ
หลังจากรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 สะพานอัษฎางค์ก็ถูกทิ้งให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทำให้เหลือเพียงตอม่อสะพานเท่านั้น ทางกรมศิลปากรจึงร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อบูรณะสะพานแห่งนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2535 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมผสานกับไทย์ประยุกต์ โดยพยายามคงโครงสร้างและการออกแบบให้ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ให้มากที่สุด จึงออกมาเป็นสะพานไม้ที่มีศาลาสีขาวรูปทรงสวยงามอย่างที่เห็นปัจจุบันค่ะ
ความงดงามของสะพานอัษฎางค์ทำให้ใครๆ ก็อยากมาเดินเล่น ชมความงามของที่นี่ โดยเฉพาะในยามเย็น เพราะเราจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้แบบเต็มอิ่มอย่างไม่มีอะไรมากั้น บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ แถมยังเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่คู่รักหลายๆ คู่ชอบมาถ่ายพรีเว็ดดิ้งอีกด้วยค่ะ 🌅 📸