‘ฉลามชลจูเนียร์’ เตรียมเปิดคัดเลือกแข้งเยาวชนรุ่น 13 ปี -14 ปี เข้าอคาเดมี

‘ฉลามชลจูเนียร์’ เตรียมเปิดคัดเลือกแข้งเยาวชนรุ่น 13 ปี -14 ปี เข้าอคาเดมี

 

“ฉลามชลจูเนียร์” ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี แหล่งเพาะบ่ม แข้ง “ฉลามชล” สายเลือดใหม่ ของสโมสรชลบุรี เอฟซี เตรียมเปิดคัดเยาวชน เข้าสู่อคาเดมี 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 13 ปี (เกิด พ.ศ. 2553 เท่านั้น) และ รุ่นอายุ 14 ปี (เกิด พ.ศ. 2552 เท่านั้น)

สำหรับ รุ่นอายุ 13 ปี จะทำการคัดเลือก ในวันอาทิตย์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่สนามช้าง ฟุตบอล ปาร์ค อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ส่วนรุ่นอายุ 14 ปี จะทำการคัดเลือก ในวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่สนาม ช้าง ฟุตบอล ปาร์ค อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ เปิดให้ลงทะเบียนในวันที่มาคัดเลือก ตั้งแต่เวลา 07.30 น. – 8.30 น. และเริ่มทดสอบฝีเท้า ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

เอกสารประกอบการสมัคร

– บัตรประชาชนตัวจริง

สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จะต้องเดินทางมาร่วมเก็บตัวฝึกซ้อม ในรอบสุดท้าย เป็นเวลาทั้ง 7 วัน ที่ ศูนย์ฝึกฟุตบอล ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี่ (ซึ่งจะมีการประกาศวันและเวลาอีกครั้ง)

ขณะที่ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก รอบสุดท้าย จะได้รับ สวัสดิการ ที่พัก, อาหาร, ค่าเทอม, ชุดแข่ง, ชุดซ้อม, ชุดเดินทาง และ เข้ารับการศึกษา ที่ โรงเรียน ท่าข้ามพิทยาคม พนัสนิคม สังกัดองค์การบริการส่วนจังหวัด ชลบุรี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ Line Id : Line ID : @chonburi_fca Link : https://lin.ee/MrPVtDe โทร.086 789 2642

ลิ้งค์แผนที่การเดินทาง : https://goo.gl/maps/WptVzBYRfwJiLJD4A

   

ภาพประกอบข่าว © Matichon ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว © Matichon ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว © Matichon ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว © Matichon ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว © Matichon ภาพประกอบข่าว

Microsoft และคู่ค้าอาจได้รับค่าคอมมิชชันหากคุณซื้อบางสิ่งผ่านลิงก์ที่แนะนำในบทความนี้

อำเภอ พนัสนิคม

อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม

ข่าว ที่เกี่ยวข้อง

Recommended

Welcome Back!

Login to your account below

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.