จากกรณีเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 65 ตำรวจ สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านควนเกาะจันทร์ หมู่ 7 ต.โคกยาง จ.กระบี่ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณขนำหลังบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิต คือ นางประคอง หรือยายคอง ศรีทอง อายุ 80 ปี นอนตายจมกองเลือดสภาพเปลือยอยู่บนขนำ สภาพศพถูกมีดกรีดบริเวณหน้าท้องเป็นแผลยาวประมาณ 6-7 นิ้ว
ส่วนคนก่อเหตุเป็นหลานชายคือ นายวรพล หรือ ดำ ดวงทอง อายุ 29 ปี หลังก่อเหตุหนีไปอยู่บ้านเพื่อน ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร ตำรวจตามไปคุมตัวได้พร้อมอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 8 นิ้ว และกางเกงขาสั้นสีดำมีคราบเลือดที่ใส่ตอนก่อเหตุ
จากการสอบถามเบื้องต้น เจ้าตัวยังมีอาการพูดคุยไม่รู้เรื่อง ตำรวจชุดสืบสวนจึงคุมตัวไปไว้ที่ สภ.เหนือคลอง รอให้สงบสติอารมณ์ก่อนจึงจะสอบปากคำอีกครั้ง จึงจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนำไปชันสูตรเพิ่มเติมที่ รพ.เหนือคลอง ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ภาพกล้องวงจรปิดภาพนิ่งช่วงคืนเกิดเหตุ ที่นายดำก่อเหตุฆ่าคว้านท้องยายของตนเอง เวลา 03.46 น. นายดำได้เดินมาวนเวียนอยู่บริเวณขนำของยายประคอง จากนั้น 04.34 น. นายดำออกมาชี้มือชี้ไม้คล้ายกับกำลังพูดคุยอยู่คนเดียวนอกขนำยายประคอง
กระทั่ง 06.01 น. เป็นช่วงที่นายดำ เข้าไปทำร้ายยายภายในขนำแล้ว และแม่ของนายดำได้เข้ามาดู และเห็นว่านายดำกำลังเอามีดคว้านท้องยายประคอง และกำลังก้มกินตับไตไส้พุ่งของยายตัวเอง จากภาพจะเห็นว่าแม่ของนายดำได้หันหน้าหนี และกำลังลุกออกจากขนำไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้าน และสุดท้ายเวลาประมาณ 07.24 น. หลังจากนายดำเอาศพยายประคองขึ้นรถกระบะไปไว้วัดแล้ว ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจที่เกิดเหตุในขนำแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 3 ก.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ สภ.เหนือคลอง ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวรพล หรือ ดำ ผู้ก่อเหตุ ไปส่งฝากขังที่ศาล จ.กระบี่ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาคือ ฆ่าบุพการีโดยเจตนา และซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลาย
ในส่วนของการสอบปากคำ ผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมา แต่ยอมรับว่าก่อเหตุจริง เบื้องต้นจากพยานหลักฐาน จึงแจ้งข้อกล่าวหาไป 2 ข้อหาก่อน แต่จะมีข้อหาเพิ่มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ส่วนการสอบปากคำพยาน ตอนนี้เรียกสอบในส่วนของพ่อแม่ ญาติ และจะเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบเพิ่มอีกหลังจากนี้
ระหว่างคุมตัวทีมข่าวพยายามถามนายวรพลว่า ที่เจ้าตัวเอามีดคว้านท้องและกินอวัยวะหัวใจ และตับของยายต่อหน้าแม่ตัวเองนั้น ทำไปรู้ตัวดีทุกอย่างไหม ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า “ผมรู้ตัวทุกอย่าง” ทีมข่าวถามต่อแล้วทำไมต้องฆ่าคุณยาย นายวรพลตอบว่า “คุณยายได้ตายก่อนแล้ว ตนเองจึงเอามีดคว้านท้อง” นักข่าวจึงถามต่อว่า มีอะไรอยากขอโทษคุณยายไหม นายวรพลตอบว่าไม่มี จากนั้นตำรวจจึงพาตัวนายวรพลไปฝากขังต่อศาล
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุอีกครั้ง สอบถามแม่ของนายดำ ผู้ก่อเหตุ ตัดพ้อกับทีมข่าวบอกว่า หลังจากข่าวออกไปว่า ลูกชายคิดว่ายายตัวเองเป็นปอบจึงฆ่าทิ้ง ทำให้ชาวบ้านหลายคน หรือคนที่ดูข่าวบางคนก็เชื่อไปว่าครอบครัวของตนเองเป็นปอบจริง ซึ่งทำให้ตอนนี้ตนเองสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะทั้งสูญเสียแม่ ลูกชายติดคุก ยังต้องมาเห็นข่าวแบบนี้ และขอไม่อยากพูดถึงมันอีก
ส่วนพ่อของนายวรพล ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองได้ยินภรรยาวิ่งมาบอกว่าลูกชายฆ่านางประคองแล้ว ตอนนั้นตกใจมากจึงวิ่งออกมาดู จึงรีบโทรศัพท์ไปแจ้ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้มาที่บ้าน เมื่อทุกคนมาถึงก็ออกไปดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง แต่พบว่าศพไม่อยู่แล้ว ไปดูหน้าบ้านก็ไม่เห็นรถกระบะ จึงช่วยกันขับรถออกตามหา จนไปสวนกับรถกระบะที่ลูกชายขับ
จากนั้นก็ขับตามกันไปจนไปจอดที่บ้านนายเจ เพื่อนลูกชาย ตนเองจึงบอกให้ตำรวจมาเอาตัวลูกชายไป โดยไม่ได้พูดอะไรกัน จากนั้นก็ทราบว่าศพของแม่ยาย ถูกนำไปไว้ที่วัดก็ตามไปดู พบนอนอยู่ที่ศาลาในสภาพเปลือยจึงเอาผ้าห่มให้ แล้วนำศพกลับไปที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง
พ่อเล่าต่อว่า ก่อนนี้ลูกชายเคยมีอาการคลั่งแบบนี้ ตอนนั้นจุดไฟเผานางประคอง แต่ช่วยกันดับไฟได้ทัน จึงบาดเจ็บแค่แผลพุพอง จากนั้นก็ส่งตัวลูกชายไปบำบัดได้ 1 เดือน ก็กลับมาอยู่บ้านอาการปกติดี ส่วนเรื่องที่ลูกชายบอกว่ายายเป็นปอบ ก่อนนี้ก็ไม่เคยได้ยินลูกพูด เพิ่งได้ยินวันเกิดเหตุ บอกว่ายายตายแล้ว เหม็นเน่าแล้ว เรื่องผีปอบที่บ้านไม่เคยมีความเชื่อเรื่องนี้ น่าจะเป็นอาการหลอนและคิดไปเองของลูกชาย
อย่างไรก็ตาม ตนเองก็ยอมรับว่าเป็นห่วงลูก แต่ถ้าปล่อยให้กลับมาอยู่บ้านก็ไม่รู้จะดูแลอย่างไร กลัวจะไปทำอันตรายกับคนอื่นอีก ก็ต้องให้ลูกชดใช้กรรมที่ทำไป แต่ยังรักลูกเหมือนเดิม ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูก แต่หลังจากรับโทษแล้วกลับออกมา ก็ต้องหาทางแก้ปัญหากันอีก ต้องรอดูว่าจะยังเป็นเหมือนเดิมอีกหรือไม่ เพราะคนที่บ้านก็กลัวเหมือนกัน