Chonburi Sponsored

แฟนฉลามเฮ 'บิ๊กบอล'เผย'สุขสันต์' ไม่ต้องผ่าตัด รอคัมแบ็คช่วยทีมเลก 2

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

“บิ๊กบอล”ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม”ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมจ่าฝูงรีโว่ ไทยลีก 2022-23  ออกมาเปิดเผยข่าวดี ให้บรรดาแฟนคลับ “ฉลามชล” ได้เฮกันลั่น เมื่อ”เบียร์”สุขสันต์ บุญตา ดาวรุ่งสารพัดประโยชน์ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ตลอดการแข่งขัน ศึก รีโว่ ไทยลีก 2022/23 ซึ่งได้รับบาดเจ็บหนักในเกมเปิดบ้าน ชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี 2-1 จะไม่ต้องพักรักษาตัวยาวเป็นแรมปี หลังเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลธนบุรี โดย นายแพทย์ ชนินทร์ ล่ำซำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางด้านกระดูกและข้อ (เวชศาสตร์การกีฬา) พบว่า  อาการเจ็บบริเวณเอ็นไขว้หลังเข่าขวาที่ฉีกขาด ไม่อยู่ในระดับที่รุนแรง สามารถรักษาการให้หายได้ด้วยการใส่เฝือก ประมาณ 3 สัปดาห์ ก่อนที่จะเข้าสู่โปรแกรมในการฟื้นฟูร่างกาย และ ทำกายภาพ ตามลำดับ

โดย “บิ๊กบอล” กล่าวว่า “ถือเป็นข่าวดีมากๆครับ  เพราะภายหลังจากที่ได้รับการตรวจเช็คอย่างละเอียด โดย นายแพทย์ ชนินทร์ ล่ำซำ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คุณหมอยืนยันว่า อาการบาดเจ็บที่บริเวณเอ็นไขว้หลังเข่า ของ สุขสันต์ บุญตา มีการฉีกขาดจริง แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงจนต้องเข้ารับการผ่าตัด วิธีการในการรักษาทางคุณหมอ จะใส่เฝือกบล็อคเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่มีการกระทบกระเทือน หรือ ขยับเขยื้อน จากนั้น 3 สัปดาห์ ก็จะนัดเพื่อตรวจเช็คอาการอีกครั้งเพื่อถอดเฝือก แล้วเข้าสู่โปรแกรม ฟื้นฟูร่างกาย และ ทำกายภาพ”

“เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาราวๆประมาณ 4 เดือน เราก็มีโอกาสที่จะได้เห็น “เจ้าเบียร์” กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางสโมสร และ ทีมแพทย์, ทีมกายภาพ ของสโมสรทุกๆคน จะช่วยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษาออกมาดีที่สุด เพราะที่ผ่านมา “เจ้าเบียร์” ถือว่าเป็นอีก 1 นักเตะคนสำคัญของเรา เขาเป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีกล้าหาญ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เล่นเพื่อสโมสรอย่างเต็มที่ ครับ”

ขณะที่ “เจ้าเบียร์” กล่าวว่า “ภายหลังจากที่ทราบรายละเอียดการบาดเจ็บ และ การรักษาจากทาง คุณหมอชนินทร์ ว่าผมไม่ต้องพักรักษาตัวนานเป็นปีๆเหมือนที่กังวลตอนแรก บอกตามตรงครับว่า ผม และ ครอบครัว ของผม ดีใจมาก เพราะอย่างที่ผมได้เคยบอกไปว่าการลงเล่นให้กับ ชลบุรี เอฟซี คือสิ่งที่ผมฝันมาตั้งแต่เด็กๆ ผมดีใจมากๆที่ได้รับโอกาสจากที่นี่ และ ผมตั้งใจที่จะช่วย และ ตอบแทนทีม ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”

“ผมอาจจะโชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ แต่ผมไม่คิดยอมแพ้แน่นอน ผมจะพยายามรักษาสภาพร่างกายตัวเอง ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ทำตามขั้นตอนของการรักษาอย่างเครงคัด เพื่อเป้าหมายที่จะกลับมาล่งเล่นให้ได้โดยเร็วที่สุดครับ”

ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณทุกกำลังจาก จาก ทีมผู้บริหาร, โค้ช, เพื่อนๆพี่ๆในทีม ตลอดจนแฟนบอล ชลบุรี เอฟซี ทุกคน ที่แสดงความห่วงใย และ เป็นกำลังใจให้ผมตลอด ขอบคุณมากๆครับ”

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ของ สโมสร ชลบุรี เอฟซี ในศึก รีโว่ ไทยลีก 2022/23 เ้ตะผ่านไปแล้ว 8 นัด ชนะ 7 นัด ,แพ้ 1 นัด มี 21 แต้มนำเป็นจ่าฝูงอยู่ขณะนี้ สโดยแมตช์เดย์ที่ 9 จะลงสนาม พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 15 ต.ค.นี้ เวลา 19.00 น. ณ สนาม ชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม