Chonburi Sponsored

โจรจี้ร้านสะดวกซื้อ ให้โอนเงินเข้าบัญชี อ้างหาเงินใช้หนี้พนันบอล

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored
สยามรัฐออนไลน์ 30 ธันวาคม 2565 14:56 น. ภูมิภาค

ภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ สามารถจับภาพได้ขณะที่มีชายขับรถยนต์กระบะสีขาว มาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะทำทีข้ามฝั่งมายืนปัสสาวะเพื่อรอจังหวะปลอดคน จากนั้นเดินพกอาวุธมีดเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ ทำทีเป็นลูกค้า แจ้งต่อพนักงานมีความประสงค์จะใช้บริการโอนเงินเข้าบัญชี เป็นจำนวนเงิน 16,800 บาท หลังจากที่พนักงานทำรายการและรอยืนยันการกดตกลงการโอนในระบบ ทางพนักงานงานได้แจ้งให้ผู้ต้องหาส่งเงินที่จะโอนให้ตามยอดดังกล่าว แต่ผู้ต้องหารายนี้กลับชักมีดที่พกติดตัวมาขึ้นมาข่มขู่พนักงานให้กดยืนยันการโอนเงินทันที หลังจากก่อเหตุเสร็จได้ขับรถหลบหนีไป พนักงานจึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบจนมีการแกะลอยจากกล้องวงจรปิดจนทราบตัวผู้ก่อเหตุและทราบว่าหลบหนีไปจังหวัดชลบุรี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2565

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ สามารถจับกุมตัว นายเอกชัย (ขอสงวน) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 882/2565  ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ในข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร” พร้อมกับของกลาง 1.รถยนต์กระบะ สีขาว ทะเบียนภูเก็ต เป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ พบจอดอยู่บริเวณริมถนน ปากทางเข้า ซอย 27 อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี / 2.อาวุธมีด ปลายแหลมสีดำ พร้อมปลอก ความยาวขนาด 36 เซนติเมตร ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุ / 3.โทรศัพท์มือถือ ใช้ในการรับเงินเข้าบัญชีที่ได้จากการชิงทรัพย์ บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีนายเอกชัย / 4.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น ไอโฟน 13 โปรแม๊กซ์ ที่ได้ฝากเงินสด จำนวน 12,000 บาทเข้าบัญชีธนาคาร/ รวมถึงเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ / เงินสดจำนวน 2,260 บาท พบอยู่ในกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล  ดยจับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ซอย 27 หมู่ 5 ตำบลบ้านเซิด อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ก่อนจะคุมตัวมาสอบปากคำขยายผล ที่ สภ.บางเสาธง แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

นายเอกชัย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยต้องการหาเงินไปใช้หนี้พนันฟุตบอลโลกที่ตนเองไปเล่นและติดเงินเจ้าหนี้อยู่จนโดนตามทวงหนี้ และกดดัน จึงตัดสินใจก่อเหตุด้วยการทำทีขอใช้บริการโอนเงินและบังคับให้พนักงานกดยืนยันการโอนเพื่อให้เงินเข้าบัญชีตัวเองเพื่อนำไปจ่ายหนี้พนันฟุตบอลโลกจนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปจับตัว

พ.ต.อ.นิรันดร ฝักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง ออกมาเตือนผู้ประกอบการและร้านค้าร้านสะดวกซื้อว่า นี้คือมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบใหม่ด้วยการทำทีขอใช้บริการโอนเงิน จากนั้นจะบังคับให้ยืนยันการโอนก่อนจะหลบหนี ซึ่งถือว่าคนร้ายวางแผนมาอย่างดี จึงเตือนผู้ประกอบการให้รับเงินสดก่อนทำรายการเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นและหากพบบุคคลต้องสงสัยให้รีบแจ้งตำรวจทันที

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม