16 ม.ค. 2566 | 05:58:02
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 มกราคม 2566
>> ลูกจ้างขนข้าวสารปลื้ม จับกัง 1 ส่ง กสร. เจรจาขอค่าแรงสำเร็จ
11.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง กรณีที่สื่อออนไลน์เสนอข่าว ว่า ลูกจ้างบริษัทค้าข้าวสารแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ชูป้ายประท้วงขอค่าแรง วอนเจ้าของสถานประกอบกิจการเห็นใจนั้น ตนได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่งพนักงานตรวจแรงงานและพนักงานประนอมข้อพิพิพาทแรงงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่า บริษัทดังกล่าว มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ประกอบกิจการค้าข้าว เวลา 09.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2566 ลูกจ้างทำหน้าที่ขนส่งข้าวสารกลุ่มหนึ่ง รวมตัวกันประท้วงภายในบริษัทเกี่ยวกับประเด็นที่นายจ้างเปลี่ยนแปลงอัตราค่าตอบแทนการขนย้ายข้าวสารจากเดิมตันละ 50 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน เป็น ตันละ 50 บาท ต่อลูกจ้าง 3 คน ซึ่งต่อมาผู้แทนนายจ้างได้มาเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง โดยนายจ้างยินดีที่จะกลับไปจ่ายอัตราค่าตอบแทนให้ตามเดิม และให้ลูกจ้างสามารถเลือกวิธีการคำนวณค่าตอบแทน 3 ตัวเลือก ซึ่งลูกจ้างในตำแหน่งดังกล่าวกว่า 60 คน ส่วนใหญ่เลือกอัตราค่าตอบแทนการขนย้ายข้าวสารจากเดิมตันละ 50 บาท ต่อพนักงาน 1 คน ตามเงื่อนไขเดิม ลูกจ้างเกิดความพึงพอใจจึงแยกย้ายกลับไปปฏิบัติงานตามปกติ
ด้าน นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีดังกล่าวพนักงานตรวจแรงงาน และพนักงานประนอมฯ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี ได้ลงพื้นที่ประนอมข้อพิพาทแรงงาน และชี้แจงทำความเข้าใจนายจ้าง ลูกจ้าง ให้มีการปฏิบัติต่อกันด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัย ใช้วิธีแก้ปัญหาร่วมกันด้วยการเจรจาปรึกษาหารือ บนพื้นฐานของแรงงานสัมพันธ์ที่ดีเพื่อความร่วมมือที่ดีต่อกันในอนาคตต่อไป
>> แจ้ง 3 ข้อหาเพิ่ม “เสี่ยเบนท์ลีย์” หลังพบสารเสพติดในเลือด
12.00 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า จากกรณีรถเบนท์ลีย์เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นเป็นเหตุได้รับความเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ซึ่งจากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า ผลตรวจเลือดของผู้ต้องหา มีสารเสพติด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจประกอบไว้เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ได้แก่
1. เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย
2. เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
3. ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน
ส่วนในเรื่องของความเร็วนั้น อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบว่าเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งการตรวจสอบรถยนต์เบื้องต้น พบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจของกองพิสูจน์หลักฐานเช่นเดียวกัน
>> เคลียร์ใจไม่ลงตัว หนุ่มชักปืนกระหน่ำยิงกิ๊กสาวดับ ก่อนเป่าขมับตัวเองตาม
14.30 น. สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ ภายในร้านคาราโอเกะ ปากซอยท่าข้าม 28/2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ บริเวณกลางร้าน บนโซฟาคาราโอเกะ พบร่าง น.ส.อ้อยใจ ผาชมภู อายุ 22 ปี สัญชาติลาว สภาพหมดสติ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. เข้าที่ใต้ราวนมขวา 1 นัด และแขนขวา 1 นัด อาการสาหัส ใกล้กันพบ น.ส.สุลี พิมสี อายุ 31 ปี สัญชาติลาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันบริเวณน่องซ้าย 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่ง รพ.นครธน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายวุฒิชัย พรำกระโทก อายุ 32 ปี ใช้ปืนที่ก่อเหตุ ยิงขมับตัวเองเสียชีวิตอยู่ข้างโซฟา ข้างตัวพบอาวุธปืนพกแบบแม็กกาซีน ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ และปลอกกระสุนอีก 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามภรรยาของนายวุฒิชัย ทราบว่า สามีแอบคบกับสาวคาราโอเกะได้ประมาณ 4 เดือน วันนี้สามีบอกว่าจะไปคุยให้รู้เรื่อง และไม่ยุ่งกับผู้หญิงอีก แต่ตนไม่คิดว่าสามีจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ จากนั้นส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
>> ลูกวิกลจริต คว้าหัวแก๊สทุบศีรษะแม่ ดับคาห้องเช่า ย่านลาดกระบัง
15.00 น. สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ในอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ซอยลาดกระบัง 26 ถนนอ่อนนุชลาดกระบัง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม.
ที่เกิดเหตุ ในห้องพักบนชั้น 3 พบร่าง นางชัย จันทร์เปรม อายุ 61 ปี พนักงานทำความสะอาด บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่แม่บ้านภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถูกของแข็งไม่มีคมทุบเข้าที่ศีรษะ นอนจมกองเลือด ใกล้กันพบหัวแก๊สของเตาแก๊สปิกนิกเปื้อนเลือดตกอยู่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายน้อย จันทร์เปรม อายุ 37 ปี บุตรชายของนางชัยไว้ได้ เบื้องต้นไม่ยอมให้การใดๆ ได้แต่มีอาการส่ายหัวไปมาและหลับตานิ่งเงียบ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้นำไปสอบสวน ที่ สน.ลาดกระบัง
จากการสอบถามหลานสาวของ นางชัย ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการไม่ปกติ มีสภาพเหมือนคนวิกลจริต เคยเข้ารักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา แต่เมื่ออาการดีขึ้นปรากฏว่านายน้อยกลับไม่กินยาต่อเนื่อง จนอาการกำเริบอีก แต่ไม่คิดว่าจะก่อเหตุขึ้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพและนำตัว นายน้อย ไปสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่ พฐ. และแพทย์ร่วมตรวจสอบ เพื่อประเมินอาการป่วย ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
>> รวบ 2 คนร้ายที่ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มตำรวจและเพื่อนตาย 1 เจ็บ 2
16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้า เหตุการณ์ยิงถล่มกันในร้านอาหารโต้รุ่งดับเพลิงสิงหนคร หมู่ 1 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 2 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 2 คน โดยคนถูกยิงเป็นฝ่ายตำรวจและทีมงานที่ไปนั่งกินในร้าน ส่วนคนยิงเป็นลูกค้าที่พาลูกกับเพื่อนมานั่งกินอยู่ก่อนแล้ว ต่อมา ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุรวม 2 คน คือ นายวันชัย จีนทอง อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนยิง และ นายณัฐพล พาลี อายุ 25 ปี เพื่อนนายวันชัย ซึ่งเป็นคนขับรถ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้ง 2 คน โดยจับกุมนายวันชัยได้ขณะหนีไปกบดานที่บ้านญาติในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พร้อมปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งซุกซ่อนไว้ในสวนยาง ขณะที่นายณัฐพล เพื่อนที่ร่วมก่อเหตุ ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.สิงหนคร พร้อมรถกระบะอีซูซุตอนเดียว สีดำ ทะเบียน 6406 สงขลา ซึ่งเป็นรถที่ทั้ง 2 คนขับหลบหนีขณะก่อเหตุ
ขณะนี้ทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวมาสอบสวนและแจ้งข้อหาดำเนินคดีที่ สภ.สิงนคร ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่า และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครอง และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน
>> ไฟไหม้รถมินิบัส กลางถนนราชวิถี จนท.รุดดับทัน
17.43 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุไฟไหม้รถประจำทาง สถานที่เกิดเหตุ ซอยราชวิถี 5 ถนนราชวิถี แขวงถนนพญาไท เขตราชวิถี กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้รถโดยสารสาธารณะชนิดบัส ขนาดเล็ก ประจำทางสาย 74 ยี่ห้อฮีโน่ ไม่ทราบรุ่น สีส้ม หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันดีเซล และก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายภายในห้องเครื่องยนต์ ลุกลามห้องโดยสารด้านหน้า รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงภายในห้องเครื่องยนต์รั่วไหล ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท
>> กระบะ ชนประสานงารถจักรยานยนต์ เจ็บสาหัส 1 และเสียชีวิตอีก 1 คน
18.15 น. รับแจ้งจากอาสากู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต ถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันออก ใกล้เคียงกับสุเหร่าบ้านเกาะ เขตหนองจอก กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว กทม. ลักษณะชนประสานงา กับรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว กทม.
ความรุนแรง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ทีมกู้ชีพเลียบวารี ให้การช่วยเหลือนำส่ง รพ.นวมินทร์ 9 และมีผู้เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อต่อมา นาย ปราโมทย์ อายุ 35 ปี พนักงานสอบสวน สน.หนองจอก มอบให้อาสาฯ นำร่างผู้เสียชีวิตชันสูตรต่อ ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
>> จนท.ดับเพลิงระดมฉีดน้ำ สกัดไฟไหม้ห้องเช่า ตร.เร่งหาสาเหตุต้นเพลิง
19.00 น. สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านภายในหมู่บ้านพระปิ่นเจ็ด ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลเมืองท่าโขลงจำนวน 2 คัน นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รถกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลง เจ้าหน้าที่อาสาร่วมด้วยช่วยกันฐานคลองหลวงเมืองใหม่
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์สูง 3 ชั้น จุดเกิดเหตุเป็นห้องนอนอยู่ชั้น 3 พบไฟกำลังลุกไหม้อยู่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ใช้น้ำฉีดเข้าสกัดไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ไฟจึงดับลง
จากการสอบถามนายวิเจท จี อายุ 38 ปี บอกว่า ตนเองมาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนประมาณ 10 คน ระหว่างเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ที่บ้านและห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องนอนของน้องสาว
>> ตร.ท่องเที่ยวพัทยา ช่วยครอบครัวรัสเซียถูกเรือจ้างปล่อยทิ้งเกาะสาก
20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเล นำกำลังไปช่วยเหลือครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย รวม 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 4 คนและเด็ก 2 คน ถูกเรือรับจ้างโดยสารทิ้งไม่สามารถกลับได้ โดยเกาะที่ถูกทิ้งนั้นคือเกาะสาก เป็นเกาะเล็กๆ คล้ายเกาะส่วนตัว ซึ่งอนุญาตให้ไปท่องเที่ยวได้ตามเวลาเท่านั้น ในช่วงกลางคืนจะไม่ค่อยมีผู้คนอาศัยอยู่ นอกจากคนดูแลเท่านั้น ทำให้นักท่องเที่ยวที่ถูกทิ้งไว้นั้นเกิดความหวาดกลัว
โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า รู้สึกเสียใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก ในการท่องเที่ยวในครั้งนี้ ยอมรับว่าเกาะมีความสวยงามมาก แต่การบริการของบริษัทเรือโดยสารนี้ สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มของตนมีทั้งผู้หญิงและเด็ก พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าได้เดินทางมาที่แหลมบาลีฮาย แล้วซื้อตัวเรือจ้างจากบริษัทหนึ่ง ซึ่งมีสติ๊กเกอร์รูปการ์ตูน ปิกาจู ติดเสื้อเป็นสัญลักษณ์ เดินทางไปเกาะสากเวลา 11.00 น.และกลับในเวลา 17.00 น. ตนเองได้ท่องเที่ยว จึงถึงเวลา 17.00 น.ก็มารอเรือกลับยังจุดนัดพบ แต่ก็ไม่ปรากฏเรือว่าจ้างลำดังกล่าว กระทั่งเริ่มมืด ตนเองและครอบครัวรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก จึงพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือ กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือกลับฝั่งดังกล่าว
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้พาครอบครัวนักท่องเที่ยวทั้ง 6 คน ส่งกลับที่พักเนื่องจากอยู่ในอาการอ่อนเพลีย ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและยกระดับเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ในต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาด้วย
>> รถกระบะ เสียหลักฟาดต้นไม้ข้างทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ
03.00 น. รับแจ้งจาก กู้ชีพสายออ โนนไทย เกิดอุบัติเหตุ ถนนโนนไทย – บัลลังก์ ในพื้นที่ เขต อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา รถกระบะ เสียหลักหลุดโค้งพลิกคว่ำชนกับต้นไม้ข้างทาง ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มีติดค้างภายในยานพาหนะ
เบื้องต้นพบว่า เสียชีวิต 5 ราย, บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และ บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ พื้นที่ สภ.โนนไทย
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 16 มกราคม 2566 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 671,332,054 ราย รักษาอาการดีขึ้น 642,421,871 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,730,384 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 103,575,894 ราย เสียชีวิต 1,125,541 คน (เพิ่มขึ้น 2 คน)
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,681,884 ราย เสียชีวิต 530,726 คน (เพิ่มยังไม่อัปเดตล่าสุด)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 39,451,771 ราย เสียชีวิต 163,347 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,605,135 ราย เสียชีวิต 163,775 คน (ยังไม่อัปเดต)
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 36,634,134 ราย เสียชีวิต 695,369 คน (เพิ่มขึ้น 35 คน)
Share this: