14 พ.ย.2565 – ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการเตรียมดำเนินคดีกับตำรวจระดับ “นายพล” ในพื้นที่ภาค 2 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิด หลังเกิดเหตุคนร้ายแก๊งทวงหนี้ บุกทำร้ายร่างกายประชาชนภายในที่พักพูลวิลล่า ย่านจอมเทียน-พัทยา และยังใช้อาวุธปืนยิงรถเสียหาย 3 คัน อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเกิดเหตุยิงกันโรงแรมที่พัทยา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตนลงไปกำกับดูแล และได้ทำงานร่วมกับพื้นที่ พบว่าผู้ต้องหาที่มามอบตัว 2 คน เป็นตัวปลอม จากการสอบสวนซักปากคำ สุดท้ายยอมรับสารภาพว่าเป็นตัวปลอมรับจ้างมาผู้ต้องหาแทน เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวและสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 ต่อศาลจังหวัดชลบุรี ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี รับสารภาพลดเหลือ 6 เดือน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าจากการขยายผลของเจ้าหน้าที่ ทำไมผู้ต้องหาถึงกล้าทำพบว่ามี รอง ผบก.ชลบุรี เข้าไปเกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือผู้ต้องหา นำตัวผู้ต้องหามามอบตัวกับตำรวจ และได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ รอง ผบก.ชลบุรีไปแล้ว ความผิดมาตรา 149 และมาตรา 157 จากการตรวจสอบร่องรอยข้อมูลพยานหลักฐาน ทางตำรวจภาค 2 ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาพบว่า มีตำรวจระดับผู้บังคับการเข้าไปเกี่ยวข้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสอบสวน และทางรอง ผบก.ชลบุรี ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง ผบก.ชลบุรี ว่ามีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา มีการเชื่อมโยงกันทั้งหมด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่ามีการออกหมายเรียก ผบก.ชลบุรี มารับทราบข้อกล่าวหา 157 และกำลังแจ้งข้อกล่าวหาอยู่ในขณะนี้ ต้องแจ้งว่า ผบ.ตร.เน้นย้ำ ให้ตนทำอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรม เรื่องนี้เราทำตามไปตามพยานหลักฐานถึงใครก็ว่ากันไป ส่วนผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจับกุมหมดแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ดำเนินการแล้ว ต่อจากนี้ ผบ.ตร.น่าจะมีคำสั่งมาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ไม่วันนี้ก็พรุ้งนี้
“เรื่องนี้ถือว่าเป็นตัวอย่าง ระบบตรวจสอบมีเยอะการเป็นผู้บังคับบัญชาคนจะต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่งั้นลูกน้องจะทำงานลำบาก อย่างที่ ผบ.ตร.เน้นย้ำ ตำรวจมี 2 แสนกว่า ตำรวจที่ดีมีมากกมายมหาศาล ส่วนตำรวจที่ไม่ดีต้องลงโทษ” รอง ผบ.ตร. กล่าว