06 ม.ค. 2566 | 05:59:55
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 มกราคม 2566
>> ไฟไหม้รถยนต์ วอดหมดทั้งคัน
09.04 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง ซอย 15 ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
โดยที่เกิดเหตุ เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดตู้ ยี่ห้อโฟล์ค หมายเลขทะเบียน นค 4134 นครปฐม รถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สแอจพีจีเป็นเชื้อเพลิง สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณห้องเครื่องยนต์ รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> เครนล้มทับคนงาน ก.แรงงาน เร่งช่วยเหลือ, เยียวยาผู้ได้รับบาดจ็บ
10.00 น. สภ.ธัญบุรี รับแจ้งเหตุเครนล้มทับคนงานก่อสร้าง โครงการก่อสร้างอาคารโรคผิวหนังรังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทำให้ลูกจ้างได้รับบาดเจ็บ
ขณะเกิดเหตุ รถปั้นจั่นทำการยกถังบรรจุคอนกรีตสำเร็จรูป เพื่อทำการเคลื่อนย้ายไปเทที่บริเวณต้นเสา ซึ่งมีคนงานคอยทำการเทบริเวณด้านบน แต่ขาของรถปั้นจั่นได้เกิดการทรุดตัวทำให้รถเอียงและล้มลงแขนของปั้นจั่นไปโดนนายกล้า วานนท์ อายุ 49 ปี สัญชาติไทย ตำแหน่งหัวหน้างาน และนายซอ คาน ทุน อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา ตำแหน่งลูกจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทำงานอยู่ในบริเวณดังกล่าว ทำให้นายกล้าฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายซอฯ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยหลังเกิดเหตุเพื่อนร่วมงานได้แจ้งหน่วยงานกู้ภัยเข้ามาทำการช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองรายส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) แล้ว
ทางด้าน เจ้าพนักงานตรวจความปลอดภัย สสค.ปทุมธานี ได้มีหนังสือเชิญนายจ้างบริษัทผู้รับหมามาให้ข้อเท็จจริงในวันที่ 12 มกราคม 2566 และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดปทุมธานีจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือจ่ายสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างผู้บาดเจ็บพึงได้รับต่อไป
>>สรุปอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 66
11.00 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 7 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65 – 4 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,440 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,437 คน ผู้เสียชีวิตรวม 317 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ สุราษฎร์ธานี (79 ครั้ง)
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (81 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (15 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 5 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส บึงกาฬ พังงา สตูล และสุโขทัย
>> พ่อเฒ่ากลับไม่ถึงบ้าน รถจยย. ชนกับรถบรรทุก เสียชีวิต
12.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย อ.เมืองลำปาง รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม เขตบ้านแพะหนองแดง หมู่ 3 ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง
โดยที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายเวร อายุ 71 ปี ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ทะเบียน จังหวัดเชียงราย และพบรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน จังหวัดแพร่
ทาง ญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านใกล้เคียงให้การว่า พ่อเฒ่าเวร ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับจากไปร่วมงานศพอีกหมู่บ้านหนึ่งเพื่อจะกลับบ้าน ขณะที่กำลังขี่รถมาถึงก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านตนเอง ซึ่งมีรถบรรทุก 6 ล้อขับตามหลังมา ได้เกิดเฉี่ยวท้ายรถจักรยานยนต์ จนทำร่างของพ่อเฒ่า ตกกระเด็นจากรถและเสียชีวิต
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนและตรวจเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
>> รมว.สาธารณสุข ยันไทยมีความพร้อมด้านสาธารณสุข รองรับนักท่องเที่ยวจีน คาดล็อตแรก 4-5 หมื่นราย
12.58 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ยืนยัน ไทยมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเนื่องจากคนไทยมีการติดเชื้อมาระดับหนึ่งและมีการฉีดวัคซีนแล้ว มียาและเวชภัณฑ์ มีเตียงและหมอ พยาบาล มีอสม.มีความพร้อม ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นปัจจัยบวกที่พร้อมจะรองรับนักท่องเที่ยวเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจของเราถือเป็นการตีคืนหลังจากที่ซบเซามานานเพราะโควิด โดยไม่มีการ จำกัดโซนนิ่งไม่มีแยก นักท่องเที่ยวว่ามาจากประเทศอะไร
ทั้งนี้ หากมีประเด็นเชื้อกลายพันธุ์เชื้อใหม่เข้ามากรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขจะมีการรายงานติดตามอย่างใกล้ชิดตามขั้นตอน และทุกอย่างมีมาตรการทางการแพทย์ซึ่งขณะนี้การติดตามสถานการณ์ภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ โดยมีการคาดการณ์ว่าช่วงแรกจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา 40,000 -50,000 คน ซึ่งหากเป็นจำนวนนี้ถือว่าเป็นวิถีที่ไทยรับมือได้อยู่แล้ว
>> รถจักรยานยนต์แหกโค้งชนขอบทาง 2 หนุ่มนิรนามเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 คน
14.30 น. สภ.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้ง เกิดอุบัติเหตุมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แหกโค้งชนแท่นแบริเออร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนทางหลวงชนบทสาย สป 2001 วัดศรีวารีน้อย บริเวณทางโค้ง ก่อนข้ามสะพานคลองบางน้ำจืด อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น คลิก สีแดง หมายเลขทะเบียน 370 อุตรดิตถ์ จอดล้มตะแคงอยู่ชิดแท่นแบริเออร์ สีเหลืองดำ ถัดไปด้านในป่าหญ้าขางทาง พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30-40 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รีบนำส่งไปรักษาด่วนที่ รพ.บางเสาธง
ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30-40 ปี อยู่ในสภาพ นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้าอ่อน สวมกาเกงขาสั้นสีเทา ศีรษะมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ มันสมองกระจาย
นายประเสริฐ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุฯ จึงรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือ เมื่อมาถึงเห็นผู้บาดเจ็บ 1 ราย จึงรีบให้การช่วยเหลือแล้วนำส่งต่อไปที่ รพ.บางเสาธง ส่วนอีกรายแพทย์ยืนยันเสียชีวิตในที่เกิดเหตุฯ ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุฯนั้น ไม่มีคู่กรณี จึงคาดว่าน่าจะขับขี่มาแล้วเสียหลักแหกโค้งล้มเอง เป็นเหตุฯ ให้เสียชีวิตดังกล่าว
ในส่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้ตรวจสอบร่างกายของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่พบเอกสารใด ๆ จึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุฯ และสอบถามจากผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อจะติดต่อหาญาติให้มาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป
>> หนุ่มทาสยาคลั่ง จุดไฟเผาบ้านแล้วลุกลามวอดรวม 3 หลัง เพื่อนบ้านลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด
16.30 น. สภ.กลางใหญ่ รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน หมู่ 4 บ้านผักบุ้ง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้ บ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ มีนายสดชื่น คันธี อายุ 56 ปี เป็นเจ้าของ โดยเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวบ้านทั้ง 2 ชั้นอย่างรวดเร็ว และลามไปยังบ้านใกล้เคียงอีก 2 หลัง รถดับเพลิงเทศบาลตำบลกลางใหญ่ และเทศบาล อบต.ใกล้เคียง รวม 13 คันเร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้ลุกลาม โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ จากการตรวจสอบพบบ้านเรือนเสียหายรวมทั้งหมด 3 หลัง
นายสมบุญ อายุ 56 ปี เล่าว่า บ้านตนอยู่ด้านหน้าบ้านต้นเพลิง ซึ่งผู้ก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้าน คือ นายชัยวัฒน์ คันธี อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้านต้นเพลิง ก่อนหน้านี้ นายชัยวัฒน์ มีพฤติกรรมเสพยาบ้า และอาละวาดทำร้ายคนในบ้าน เคยเอาไปบำบัดก็กลับมาเสพอีก หนักเข้าจุดไฟเผาสิ่งของภายในบ้าน แต่ก็มีคนมาช่วยดับไว้ได้ทัน ก่อนเกิดเหตุเช้าวันนี้ นายชัยวัฒน์ เสพยาบ้าแล้วมีอาการคุ้มคลั่ง อาละวาดใส่พ่อและยาย จนทั้งสองคนต้องหลบไปอยู่ที่อื่น จากนั้น นายชัยวัฒน์ ได้จุดไฟเผาสิ่งของภายในบ้าน แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ครั้งนี้ไม่มีคนไปช่วยดับ ไฟจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
ตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดับแต่ไม่ทัน ไฟจึงลุกไหม้และลามมาเผาบ้านตนและเพื่อนบ้านเสียหายรวม 3 หลัง ตนจะดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ จนถึงที่สุด เพราะครั้งนี้บ้านของตนถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง จนไม่เหลืออะไรเลย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนพยานบุคคล เพื่อรวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ มาดำเนินคดีต่อไป
>> อุบัติเหตุรถชนกัน แล้วเกิดเพลิงไหม้ บนเขาสามโทน
17.24 น. รับแจ้งจากมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถานประจันตคาม ว่า เกิดเหตุไฟลุกไหม้รถบรรทุก บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 บริเวณเขาสามโทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ในที่เกิดเหตุมีรถคู่กรณี จำนวน 4 คัน ดังนี้
1. รถกระบะ 1 คัน ลักษณะรถ ถูกชนด้านท้าย
2. รถบรรทุก 18 ล้อ หางพ่วงบรรทุกน้ำตาลทราย ลักษณะรถ ไฟไหม้เฉพาะที่หัวเก๋ง
3. รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 1 คัน ลักษณะรถ ด้านท้ายมีการชน
4. รถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกน้ำเกลือกุ้ง จำนวน 1 คัน ลักษณะรถ เกิดพลิกคว่ำไฟลุกไหม้ทั้งคัน
เจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ โดยปิดการจราจรบนถนน 304 ใช้รถดับเพลิง อบต.บุพราหมณ์ จำนวน 1 คัน และรถดับเพลิง อบต.ทุ่งโพธิ์ 1 คัน เข้าทำการดับไฟที่ลุกไหม้รถบรรทุกน้ำเกลือกุ้ง จำนวน 1 คัน (ที่พลิกคว่ำแล้วเกิดไฟลุกไหม้) และรถบรรทุกน้ำตาลทรายที่ไฟลุกไหม้หัวเก๋ง จำนวน 1 จนกระทั่งเวลา 19.00 น. จึงสามารถดับไฟที่ลุกไหม้รถบรรทุกทั้ง 2 คันได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการเคลียร์พื้นที่ เพื่อเปิดเส้นทางขาลงจากนครราชสีมาไปกบินทร์บุรี
เหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เพศชาย เจ้าอาสากู้ภัยฯ นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลนาดี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาดี
>> ไฟไหม้โรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นิคมฯ บางชัน ระดมรถน้ำ 10 คันเข้าควบคุม
18.00 น. สน.บางชัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ บริเวณโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซ.เสรีไทย 85 ถ.เสรีไทย แขวงและเขตคันนายาว กรุงเทพฯ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานฯ มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ความสูง 3 ชั้น พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งจำนวนมากออกจากชั้น 3 ของอาคาร พบพนักงานโรงงานวิ่งหลบหนีออกมา อยู่ในอาการตื่นตระหนก จนท.จึงระดมวางหัวฉีดน้ำสกัดโดยใช้เวลากว่า 45 นาทีกระทั่งสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควัน จำนวน 2 ราย เป็นอาสาสมัครชุดเฉพาะกิจ ชาย 1 ราย ถูกส่ง รพ.นพรัตนราชธานี และอีกรายเป็นหญิง เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่าเพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณชั้น 3 ของตัวโรงงานแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวอาคารแต่อย่างใด
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สาเหตุเกิดจากตู้อบไฟฟ้าภายในโรงงานชั้น 3 เกิดระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้และกลุ่มควันฟุ้งกระจายทั่วอาคาร ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่พนักงานโรงงานกำลังอยู่ในช่วงเวลาทำโอที และรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณชั้น 1 จากนั้นได้มีเสียงเตือนสัญญาณไฟไหม้ภายในโรงงานดังขึ้น ทำให้ทางพนักงานออกมารวมพลกันอยู่ด้านนอกโรงงานในทันที และทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
>> พบร่างมนุษย์ในพงหญ้าริมทาง คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำว่า 10 วัน
22.00 น. มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งว่า มีประชาชน ได้กลิ่นเหม็นต้องสงสัยคล้ายกลิ่นศพมนุษย์ ที่ซอยคุ้มเกล้า 24 เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
โดยที่เกิดเหตุเข้าจากหน้าปากซอยคุ้มเกล้า ประมาณ 200 เมตร พบร่างมนุษย์ยังไม่สามารถยืนยันระบุเพศ ลักษณะนอนหงายอยู่ในพงหญ้า คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน ใกล้กันพบขวดเบียร์ จำนวน 3 ขวดตกอยู่
ผู้เห็นเหตุการณ์และโทรแจ้งตำรวจ เล่าว่า ตนเองอาศัยเดินผ่านบริเวณดังกล่าวเป็นประจำ ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ประมาณวันที่ 28-29 ธันวาคม 2565 ได้กลิ่นโชยออกมาตลอด แต่ไม่ได้เอะใจ คิดว่าเป็นกลิ่นซากสุนัข แต่วันนี้กลิ่นรุนแรงมากจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จนพบศพชายไม่ทราบนามดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุง พร้อมทีมแพทย์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบบาดแผลบริเวณหน้าคล้ายโดนของแข็งตี และบริเวณหน้าอกพบบาดแผลคล้ายถูกของมีคม จึงเก็บหลักฐานและนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจต่อไป
>> รถจักรยานยนต์ ชนรั้วบ้านเรือนประชาชน บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 คน
23.40 น. รับแจ้งจาก ชุดปฏิบัติการกู้ภัย สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ เกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนรั้วบ้านเรือนประชาชน ริมถนนลำปาง-แม่ทะ ใกล้เคียงทางข้ามรถไฟป่าแลว ในพื้นที่ ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน 1กท-6270 ลำปาง เสียหลักชนรั้วข้างทาง ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย อาสากู้ภัยเร่งนำส่ง รพ.ใกล้เคียง ส่วนจุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นาย ปราโมทย์ ทินวัง อายุ 21 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร
>> หนุ่มต่างด้าว ขี่รถ จยย. พลิกคว่ำบนสะพานกลับรถ ร่างกระเด็นตกถนนเทพรัตน เสียชีวิต
00.15 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุถนนเทพรัตน ฝั่งขาเข้า ช่วงหลัก กม.ที่ 13 ในช่องทางหลัก
โดยที่เกิดเหตุ บนถนนเทพรัตน พบร่างผู้บาดเจ็บชาย 1 ราย นอนอาการหมดสติอยู่ริมถนน อาสากู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือและปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นาย อา ซา ฮัด อายุ 27 ปี จากการตรวจสอบบนสะพานกลับรถ เหนือจุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน 3243 กทม. ลักษณะล้มคว่ำ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้เสียชีวิตได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ดังกล่าวขึ้นสะพานกลับรถ แล้วเสียหลักพลิกคว่ำ ร่างกระเด็นตกลงมากระแทกพื้นถนนด้านล่าง จนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี
>> เพลิงไหม้โกดังโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ส่งออกนอกย่านบางละมุง เสียหายวอดทั้งหลัง
03.30 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโกดังโรงงานอะไหล่รถยนต์ส่งออกต่างประเทศ ซึ่งเป็นของบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 8 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนทำให้เกิดกลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าจนสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรื ได้ประสานรถดับเพลิงจาก องค์การบริหารส่วนตำบลโป่ง และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงรวมกว่า 10 คัน เข้าระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ภายในโกดังอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ เนื่องจากภายในโกดังมีเครื่องจักรและพลาสติกสำหรับขึ้นรูปจำนวนมากซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเวลานี้ยังไม่สามารถ ควบคุมเพลิงได้ ขณะที่สภาพภายในอาคารพบหลังคาโกดังบางส่วนยุบพังลงมา เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่เป็นเขตอันตรายห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออกเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 6 มกราคม 2566 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 666,932,529 ราย รักษาอาการดีขึ้น 638,676,988 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,704,962 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 102,972,188 ราย เสียชีวิต 1,120,092 คน (เพิ่มขึ้น 52 คน)
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,680,604 ราย เสียชีวิต 530,707 คน (ยังไม่อัปเดต)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 39,381,826 ราย เสียชีวิต 161,643 คน (เพิ่มขึ้น 143 คน)
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,475,448 ราย เสียชีวิต 162,256 คน (เพิ่มขึ้น 235 คน)
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 36,428,107 ราย เสียชีวิต 694,442 คน (เพิ่มขึ้น 207 คน)
Share this: