ว่อนคลิปควงปืนขู่ นายอำเภอโร่แจงไม่ใช่ปลัดฯ เป็น 'อดีตพลเรือตรี' หยิบกั๊กไปสวม

นายอำเภอบ้านฉาง ระยองยัน บุคคลในคลิปเมากร่าง ชักปืนขู่ ที่สมุทรสาคร ไม่ใช่ปลัดอำเภอบ้านฉาง เพราะปลัดอำเภอเป็นผู้หญิง ตรวจสอบพบเป็นนายทหารยศเรือตรี เพิ่งเกษียณราชการไป

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิป หนุ่มใหญ่เมากร่าง สวมเสื้อกั๊ก “อำเภอบ้านฉาง” ข่มขู่ใช้ปืนกับผู้หญิงเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง พื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และอ้างตัวว่าเป็นปลัดอำเภอบ้านฉาง จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมดังกล่าว

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายเรืองฤทธิ์ ประกอบธรรม นายอำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง ได้กล่าวว่า กรณีที่มีการโพสเรื่องราวของ บุคคลที่มีอาการเมากร่าง และ ชักปืนขู่ ที่แชร์กันในโลกออนไลน์ ความจริงแล้ว บุคคลในคลิปไม่ใช่ปลัดอำเภอบ้านฉาง เพราะ ปลัดอำเภอบ้านฉาง คนปัจจุบัน เป็นผู้หญิง ชื่อ นางสาวยุวพันธุ์ ทับแก้ว จึงเป็นการแอบอ้าง ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อปลัดอำเภอและอำเภอบ้านฉางรวมถึงไม่ได้เป็นข้าราชการ พนักงานข้าราชการ ลูกจ้าง สังกัดที่ทำการปกครองอำเภอบ้านฉาง และ ไม่ใช่ สมาชิก อส. หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในสังกัดแต่อย่างใด

จากการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ที่ปรากฎในคลิป พบว่าทะเบียนระยอง ผู้ครอบครอง คือ เรือตรีวีระยุทธ ชาวอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

และจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า เจ้าของรถยนต์ในที่เกิดเหตุ เคยรับราชการที่กองบินทหารเรือ ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง และได้เกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บุคคลดังกล่าวได้มาดื่มสุราที่ร้านอาหาร ของอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง

ซึ่งอดีตผู้ใหญ่ได้แขวนเสื้อกั๊กตัวเกิดเหตุไว้ที่ร้านอาหารของตนเอง โดยที่ อดีตข้าราชการทหารคนดังกล่าว ได้หยิบไป และ นำไปสวมใส่ก่อเหตุที่จังหวัดสมุทรสาคร

นายเรืองฤทธิ์ นายอำเภอบ้านฉาง กล่าวต่อว่าทางอำเภอบ้านฉาง ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และ ประกาศให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ในองค์กร หน่วยงาน และบุคคลากรสังกัดอำเภอบ้านฉาง

ด้าน นางสาวยุวพันธุ์ ทับแก้ว ปลัดอำเภอบ้านฉาง ที่ถูกแอบอ้างตำแหน่ง ได้กล่าวว่า หลังจากคลิปดังกล่าวปรากฎคำว่า ปลัดอำเภอบ้านฉาง ไปก่อเหตุ ก็ทำให้เกิดความเสียหาย ทางผู้บังคับบัญชา ก็ได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งก็ปรากฎแล้วว่า ไม่ใช่ปลัดอำเภอตัวจริง ส่วนเรื่องของการดำเนินคดี อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินคดีอย่างไรบ้าง