Chonburi Sponsored

ฆ่าตัว 3 ราย 5 ศพ สังเวยพิษเศรษฐกิจ “แม่ลูก” รมควัน เสี่ยโรงงานยิงขมับ

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

คนไทยฆ่าตัวตายสังเวยพิษโควิด-19 วันเดียว 5 ศพ รายแรกสาวใหญ่เจอปัญหาหนี้สินรุมเร้า ล่าสุดถูกลูกแชร์ ทวงเงิน หมดทางออกตัดสินใจรมควันฆ่าตัวตายพร้อมลูกสาวพิการคาห้องเช่า อีกรายเสี่ยโรงงานสปริงระเบิดขมับดับคาห้องรับรองลูกค้า หลังถูกเศรษฐกิจตกสะเก็ดจนงานหดหาย รายสุดท้ายผัวเมียเจ้าของร้านชำเครียดยอดขายตก ลูกค้าหันไปใช้สิทธิคนละครึ่งร้านโครงการกันหมด ทำให้หมุนเงินไม่ทัน นัดผูกคอตายเคียงคู่กัน

พิษเศรษฐกิจยุคโควิด-19 เป็นเหตุให้คนไทยฆ่าตัวตายถึง 3 ราย ตาย 5 ศพ รายแรกสาวใหญ่เครียดปัญหาหนี้สินตัดสินใจรมควันฆ่าตัวตายพร้อมลูกสาวพิการคาห้องพัก โดยช่วงค่ำวันที่ 8 ก.พ. พ.ต.ต.จตุพงษ์ แป้นเขียว สว. (สอบสวน) สภ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีคนรมควันฆ่าตัวตาย 2 ศพภายในห้องเช่าเลขที่ 103/9 หมู่ 3 ต.ท่ายาง ไปตรวจสอบพร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี แพทย์เวร รพ.ท่ายาง และกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี พบศพนางนกเล็ก จำปี อายุ 57 ปี นอนหงายอยู่บนที่นอน อีกศพทราบชื่อ น.ส. นุชรัตน์ จันทร์ศรี อายุ 25 ปี ลูกสาวผู้ตาย นอนคว่ำหน้า บนที่นอนใกล้กัน ภายในห้องพบเตาอั้งโล่ตั้งอยู่ในกระถางต้นไม้ มีเศษเถ้าถ่านไหม้จนหมด ที่ใต้ช่องประตูห้องมีผ้าอุดไว้จนแน่นไม่ให้อากาศถ่ายเท

นายฐานสุพงษ์ จำปี อายุ 66 ปี สามีนางนกเล็ก ให้การด้วยความโศกเศร้าว่ามีอาชีพขายลอตเตอรี่และพระเครื่อง ส่วนเมียไม่ได้ทำอะไร อยู่บ้านดูแลลูกสาวที่พิการเป็นโรคลมชัก และขาอ่อนแรงเดินไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าออกไปขายลอตเตอรี่ในตลาดนัดท่ายาง ช่วงเที่ยงซื้อข้าวมาให้เมียและลูก ระหว่างจะออกไปขายลอตเตอรี่ตอนบ่าย จู่ๆเมียเดินมากอดและบอกรักน้ำตาคลอเบ้า รู้สึกแปลกใจ แต่ไม่ได้คิดอะไร ตกเย็นไลน์หาเมีย แต่ไม่อ่าน โทรศัพท์บอกเพื่อนบ้านไปเคาะประตูเรียก ไม่มีเสียงตอบ รีบเก็บของกลับมาดูพบศพดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจมาจากหนี้สิน ล่าสุดถูกลูกแชร์ไลน์ทวงเงินที่ติดค้างอยู่ อีกทั้งภรรยาอาจเครียดเรื่องลูกสาว และลูกชายที่เพิ่งออกจากศูนย์บำบัดยาเสพติดมาขอเงินทุกวัน แต่ไม่มีให้ เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ลอตเตอรี่ขายยาก ทำให้เมียเกิดความเครียดสะสมฆ่าตัวตายพร้อมลูกสาว

อีกราย พ.ต.ท.นันทพล นาในบุญ สว. (สอบสวน) สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี รับแจ้งกลางดึกคืนวันที่ 8 ก.พ. ว่ามีคนยิงตัวตายภายในบริษัทไดนามิคสปริง (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 40/1 หมู่ 7 ต.วัดโบสถ์ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผกก. หน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพนัสนิคม และแพทย์เวร รพ.พนัสนิคม พบศพนายธนาชัย เลิศปณิธาน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 450/17 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. เสียชีวิตอยู่บนพื้นภายในห้องรับรองลูกค้า ใช้ปืนยิงขมับซ้ายทะลุขมับขวา มีปืนลูกโม่ .38 ตกอยู่ที่พื้น สอบสวนญาติทราบว่า นายธนาชัย ผู้ตาย เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว เป็นโรงงานรับผลิตสปริงทุกชนิด ช่วงหลังมีปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ไม่ค่อยมีงานเข้ามา คาดว่าอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ตายเกิดความเครียดยิงตัวตาย

รายสุดท้าย ร.ต.อ.ทองดาว โคตรหลักคำ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 9 ก.พ.ว่ามีคนผูกคอตาย 2 ศพภายในร้านขายของชำ หมู่ 1 ต.น้ำคอก ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก. พ.ต.ต.ชลันธร ขจรธีรสกุล สว.สส. และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง พบศพนายนพดล กันทุกข์ อายุ 53 ปี และ น.ส.ดวงอนงค์ สิทธิเสนา อายุ 46 ปี สองผัวเมีย ใช้เชือกไนลอนสีเขียวผูกคอตัวเองกับคานเหล็กหลังบ้าน ลักษณะหันหน้าเกือบชนกัน ห้อยโตงเตง คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 6 ชม.

สอบสวนนายประเสริฐ กันทุกข์ อายุ 77 ปี พ่อนายนพดลให้การว่าลูกชายอยู่กินกับ น.ส.ดวงอนงค์ ลูกสะใภ้มากว่า 10 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน อาศัยเปิดร้านขายของชำเลี้ยงครอบครัว ช่วงหลังร้านมีปัญหาขายไม่ดี หมุนเงินไม่ค่อยทัน ลูกชายเคยบ่นให้ฟังหลายครั้ง พยายามปลอบใจบอกค่อยๆแก้ปัญหาไป เดี๋ยวทุกอย่างดีเอง ก่อนเกิดเหตุลูกชายมาหาและยกมือไหว้ขอขมา ไม่นึกว่าลูกจะคิดสั้นผูกคอตายพร้อมภรรยา ขณะที่ น.ส.นัยนา กันทุกข์ อายุ 49 ปี น้องสาวนายนพดล ให้การเพิ่มเติมว่าตั้งแต่โควิด-19 ระบาดร้านของพี่ชายขายไม่ดีเลย ประกอบกับร้านไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ทำให้ลูกค้าไปใช้สิทธิซื้อของร้านอื่นกันหมด คาดว่าสาเหตุดังกล่าว ทำให้พี่ชายและพี่สะใภ้เครียดนัดกันฆ่าตัวตาย

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม