ศูนย์ข่าวศรีราชา – สาวเมืองพนัสนิคม โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยแพ้ใบกัญชาเกือบตาย หลังผู้ขายอาหารใส่ใบกัญชาในต้มจืดมะระไม่แจ้งให้ทราบ รับประทานเพียง 2 ชั่วโมงเกิดอาการเวียนหัวรุนแรง ทั้งอาเจียน คอแห้งนาน 3 วัน จนต้องไปพบแพทย์ วอนติดป้ายแจ้งทุกครั้งที่นำใบกัญชาประกอบอาหาร
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sirijan Teerawan ได้โพสต์ข้อความฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกินกัญชาได้ และขอให้ติดป้ายแจ้งลูกค้าเพื่อความปลอดภัย หลังซื้อกับข้าว (ใส่กัญชา) มารับประทานจนเกิดอาการปวดหัว คอแห้ง คอบวม กลืนน้ำลายลำบาก กระหายน้ำ เพลีย ปวดท้อง จนต้องไปโรงพยาบาล พร้อมบอกว่าตนเองต้องกินยาแก้ปวด และเกลือแร่เพื่อคลายความอ่อนเพลีย
นอกจากนั้น ยังมีอาการกระหายน้ำนานถึง 3 วัน ขณะเดียวกัน ยังได้โพสต์ภาพถุงต้มจืดที่มีใบกัญชา และภาพที่ตนเองกำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลพนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งสรุปอาการว่าแพ้กัญชานั้น
วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ นางสิริจันทร์ ธีระวรรณ อายุ 27 ปี เจ้าของโพสต์แพ้กัญชาซึ่งได้นำภาพเมนูอาหารที่ตนเองสั่งซื้อผ่านแม่ค้าออนไลน์รายหนึ่งที่เปิดรับออเดอร์พร้อมส่งเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา และตนเองได้สั่งเมนูรังนกตุ๋นแป๊ะก๊วยพุทราจีน สปาเกตตีเบคอนพริกแห้ง ข้าวไก่ผัดตะไคร้ และข้าวต้มจืดมะระยัดไส้หมูสับ โดยพบว่าต้มจืดดังกล่าวมีใบกัญชาติดอยู่
จึงรับประทานเมนูนี้กับสามีโดยไม่ให้ลูกน้อยรับประทาน แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ตนเองเริ่มมีอาการเวียนหัวอย่างรุนแรง อาเจียน จึงนอนพัก แต่ผ่านไป 2 วันอาการไม่ดีขึ้น ประกอบกับได้เห็นข่าวชาวบ้านรับประทานอาหารที่ใส่กัญชาจนเสียชีวิตและมีอาการเบื้องต้นคล้ายกับตนเอง จึงรีบเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม
โดยแพทย์วินิจฉัยว่า เกิดจากการแพ้กัญชา แต่ขณะไปพบแพทย์เริ่มมีอาการน้อยลงแล้วจึงได้กลับมาดูอาการต่อที่บ้าน หลังอาการดีขึ้นจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวลงในเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัยผู้ที่คิดจะรับประทานอาหารที่ใส่ใบกัญชาเพราะแต่ละคนมีสภาพร่างกายไม่เหมือนกัน ซึ่งในครั้งนี้โชคดีที่สามีไม่มีอาการแพ้กัญชาเช่นเดียวกับตนเอง
นางสิริจันทร์ ยังได้ฝากไปยังบรรดาพ่อค้าแม่ค้าว่า หากใส่ใบกัญชาลงในเมนูอาหารควรแจ้งให้ลูกค้าทราบทุกครั้งเพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจว่าจะรับประทานหรือไม่ ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้นแม้ผู้ขายอาหารจะติดต่อสอบถามอาการและยินดีชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าอาหารคืนให้ แต่ตนเองไม่ได้ติดใจเอาความ เพียงแต่ต้องการเตือนภัยผู้ที่อาจมีอาการแพ้เช่นเดียวกับตนเองเท่านั้น