Chonburi Sponsored

เพิ่งเลิกงาน! 2หนุ่มขับกระบะ แหกโค้ง พุ่งชนทะลุกำแพง ดับ1 สาหัส1 – ข่าวสด

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

2 หนุ่มขับกระบะ แหกโค้ง พุ่งชนทะลุกำแพงพังยับ ร่างติดในรถ เสียชีวิต 1 ราย บาดสาหัส 1 ราย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ เพื่อนเผยทั้งคู่เพิ่งเลิกงาน

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 17 ม.ค.2565 พ.ต.ท.นันทพล นาในบุญ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.พนัสนิคม รับแจ้งเหตุรถกระบะเสียหลักชนกำแพง บริเวณริมกำแพงโรงงานผลิตข้าวสารตราไก่แจ้ บนถนนสาย 315 พนัสนิคม-ชลบุรี (ขาเข้าชลบุรี) ม.1 ต.กุฏโง้ง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุทุ่งเหียง และรถกู้ชีพโรงพยาบาลพนัสนิคม

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน 1ฒม648 กทม. สภาพพลิกตีลังกาล้อชี้ฟ้า ชนอัดกับกำแพงโรงงานได้รับความเสียหายจนทะลุพังทั้งแถบ อุปกรณ์ช่าง สายเคเบิล และบันไดไม้ตกหล่นกระจัดกระจาย นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บติดภายในรถ 2 ราย เจ้าหน้าที่เร่งใช้เครื่องตัดถ่างงัดร่างออกจากตัวรถ นำคนเจ็บออกมาแบบทุลักทุเล

2 หนุ่มขับกระบะ แหกโค้ง พุ่งชนทะลุกำแพงพังยับ ร่างติดในรถ เสียชีวิต 1 ราย บาดสาหัส 1 ราย

โดยรายแรกชื่อ นางพงษ์สุริยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี บาดเจ็บสาหัส สภาพมีบาดแผลทั่วร่างกายเนื่องจากถูกกระจกบาด เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลพนัสนิคม ส่วนอีกรายชื่อ นายกฤษดาศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สภาพบาดเจ็บสาหัสถูกคอนโซลรถอัดร่างไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงสามารถช่วยนำร่างออกมาได้ แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต

จากการสอบถาม นายธวัช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เพื่อนร่วมงานของผู้ประสบเหตุ กล่าวว่า ทั้งสองคนเป็นเพื่อนร่วมงานกับตน และเพิ่งจะเลิกงานแยกย้ายกันกลับที่พัก ผู้ประสบเหตุได้อาสาขับรถมาส่งเพื่อนอีกคน ก่อนที่จะเลี้ยวยูเทิร์นกลับรถเพื่อกลับไปพักผ่อน จนมาทราบว่าทั้งคู่ประสบเหตุรถที่ขับเสียหลักพุ่งชนกำแพงจนรถพลิกคว่ำบาดเจ็บสหัสและเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่าคนซึ่งยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับ คงขับมาด้วยความเร็ว ประกอบกับช่วงบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้ง รถจึงอาจเสียหลักพุ่งชนเข้ากับกำแพงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม