จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “อุ๊จัง” โพสต์ข้อความลงบนกลุ่มเฟซบุ๊ก ระบุ “ขอรีวิวร้านทำผมแห่งหนึ่งในพานทองหน่อยค่ะ กำลังดังเลย อ่านเม้นไม่ทันตะกี้โอนมัดจำไปแล้วโดนเลื่อนตลอดพึ่งได้คิวพรุ่งนี้ จะได้ตัดสินใจถูกค่ะ” จากนั้นมีผู้ที่เคยไปใช้บริการร้านทำผมดังกล่าว ต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบกันเป็นจำนวนมาก อาทิ
ถูกร้านทำผมหลอกให้โอนเงินมัดจำ แต่พอถึงวันเวลานัดหมาย ทางร้านกลับไม่ทำผมให้ และไล่กลับ ขณะที่บางรายไปทำผมได้เพียง 2 วัน กลับเสียทรงชี้ฟู จึงติดต่อกลับไปที่ร้านเนื่องจากมีการโฆษณาว่า รับประกันคุณภาพหลังทำผม 6 เดือน แต่ถูกทางร้านต่อว่ากลับมา เป็นต้น ซึ่งขณะนี้พบว่า มีผู้ได้รับความเสียหายจากร้านทำผมดังกล่าว ประมาณ 30 ราย
6 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงสาว จำนวนกว่า 10 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.จารึก โพธิ์ทอง รอง สว. (สอบสวน) สภ.พานทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับร้านทำผมดังกล่าว
น.ส. พิไลวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า เห็นร้านทำผมโพสต์เฟซบุ๊กเปิดรับหัวหุ่นไปทำผมโดยคิดราคาไม่แพง ตนจึงตัดสินใจโอนเงินมัดจำไปเพื่อจองคิวทำผม เมื่อถึงวันนัด ได้เดินทางไปยังร้านที่นัดกันไว้ ปรากฎว่าไม่ใช่ร้านทำผมที่มีป้ายชื่อ แต่เป็นหมู่บ้านใจกลางเมือง อ.พานทอง ตนจึงติดต่อกลับไปทางเจ้าของร้าน ซึ่งบอกให้แลกบัตรผ่านเข้าไปได้เลย เมื่อเข้าไปถึงก็ไม่ใช่ร้านทำผม และยังมีผู้ชายที่อยู่ในบ้านเดินออกมาไล่ ตนจึงเดินทางกลับและพยายามติดต่อไปยังร้านเพื่อขอเงินมัดจำคืน แต่ทางร้านได้บ่ายเบี่ยงจะไม่คืนเงิน ตนจึงได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเตือนภัยให้คนอื่น
หลังจากนั้นก็ได้มีคนเริ่มที่จะมาแชร์ประสบการณ์กับการทำผมร้านนี้เป็นจำนวนมาก และยังมีผู้เสียหายที่โอนเงินมัดจำไปแล้วได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องเงินมัดจำคืน
ด้าน น.ส.พรเทวา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า มีการตกลงราคายืดผมแบบเคราติน ในราคา 900 บาท วางเงินมัดจำไป 500 บาท และไปจ่ายหน้าร้านอีก 400 บาท ตอนที่ตนตกลง ทางร้านบอกว่าต้องมีการทำสปาผมเกรดพรีเมี่ยม แถมอยู่ในโปรโมชั่นด้วย แต่พอทำเสร็จทางร้านได้ขอเก็บเงินเพิ่มอีก 800 บาท รวมเป็นเงิน 1,700 บาท และทางร้านยังรับประกันผมอีก 6 เดือน
แต่หลังจากทำผมเสร็จแล้วเพียง 2 วัน ผมของตนก็เสียแตกปลาย หงิกงอ จึงติดต่อไปยังร้านอีกครั้งแต่ทางร้านไม่รับผิดชอบ ตนจึงได้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนที่ได้รับความเสียหายอีกหลายคนเพื่อเข้าแจ้งความ ที่ สภ.พานทอง เพื่อดำเนินคดีกับทางร้านทำผมแห่งนี้
จากการสอบถามผู้เสียหาย ทราบว่า เจ้าของร้านทำผมเป็นสาวประเภทสอง เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณปีที่แล้ว ในครั้งนั้นทางญาติของเจ้าของร้าน ได้ออกมารับผิดชอบเงินคืนผู้เสียหายทั้งหมด จึงไม่มีใครเข้าแจ้งความ แต่ครั้งนี้มีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแจ้งความ เพราะทางร้านบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ
เบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ และจะดำเนินการออกหมายเรียกเจ้าของร้านทำผม มาสอบปากคำ และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ข่าว : วิศาล แสงเจริญ จ.ชลบุรี