Chonburi Sponsored

'ชลบุรี' ทนกระแสไม่ไหว ประกาศยกเลิกสัญญา 'วรวุฒิ'

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

ชลบุรี เอฟซี นำโดย วิทยา คุณปลื้ม ประธานสโมสร ประกาศยกเลิกสัญญากับ วรวุฒิ สุขุนา ผู้รักษาประตูที่ก่อเหตุเมาแล้วขับจนชนคนเสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย

ก่อนหน้านี้ “ฉลามชล” มีการออกบทลงโทษกับนายทวารคนดังกล่าวด้วยการตัดชื่อไม่ส่งลงเล่นในทุกรายการ พร้อมตัดเงินเดือน และไม่ให้ร่วมฝึกซ้อมกับคนอื่นๆ จนกว่าจะสิ้นสุดคดี และได้รับโทษตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ศศิศ สิงห์โตทอง อดีตผู้จัดการทีมชลบุรี เอฟซี ที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อช่วงดึกวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ออกมาเผยว่า “ฉลามชล” ยังไม่ได้ยกเลิกสัญญากับนักเตะที่ก่อเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด กลัวจะเป็นการตัดอนาคตของเจ้าตัว

อย่างไรก็ตามจากแถลงการณ์ล่าสุดของ วิทยา คุณปลื้ม ประธานสโมสร ระบุว่า ชลบุรี เอฟซี มีการพิจารณาบทลงโทษใหม่ โดยจะทำการยกเลิกสัญญากับ วรวุฒิ สุขุนา ซึ่งมีผลทันทีในวันที่ 27 ตุลาคม 2565

นอกจากนี้การออกมาแสดงความรับผิดชอบแถลงยุติบทบาทของ ศศิศ สิงห์โตทอง ในตำแหน่งผู้จัดการทีม ทาง วิทยา คุณปลื้ม และบอร์ดบริหารสโมสรเคารพการตัดสินใจของเจ้าตัว และอนุมัติให้มีผลตามประสงค์ของ “บิ๊กบอล” เช่นกัน

นอกจากนี้ในแถลงการณ์ของ วิทยา คุณปลื้ม ยังกล่าวว่า ชลบุรี เอฟซี ขอเน้นย้ำเรื่องการแสดงจุดยืนของสโมสร ที่ไม่เห็นด้วย และยอมรับไม่ได้กับการกระทำของ นายวรวุฒิ สุขุนา ผู้รักษาประตูคนดังกล่าวกรณีอุบัติเหตุที่มาจากการเมาแล้วขับรถชน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากเราเป็นสโมสรกีฬาฟุตบอลที่มีความมุ่งหวังจะทำให้คนชลบุรี มีร่างกายแข็งแรง ปลอดโรค และ พฤติกรรมการเมาและขับ สวนทางกับเจตนารมย์ที่เรามี

ทั้งนี้สโมสรยังคงยืนยันว่าจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด พร้อมให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่และนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งยืนยันว่า จะควบคุมดูแล ไม่ให้นักฟุตบอล รวมไปถึงบุคลากรในสโมสร ก่อเหตุเมาแล้วขับ จนเกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้อีกต่อไป

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม