ขยายผลหาผตห.เพิ่ม แก๊งจีน เรียกค่าไถ่-ตัดนิ้ว ส่วนผู้เสียหาย ขึ้นบัญชีห้ามเข้าประเทศ

          การสอบสวนขยายผลแก๊งผู้ต้องหาชาวจีน อุ้มคนจีนด้วยกัน เรียกค่าไถ่ ตัดนิ้ว ในพื้นที่ จ.ชลบุรี หลังจากที่เจ้าหน้าที่สั่งดำเนินคดีสองผู้ต้องหาคนสำคัญแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ต.ค.65 น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า นายเหริน ไฮ่ ป๋อ สัญชาติจีน ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน พาตัวออกไปจากบริเวณคอนโดซีตัส ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเรียกค่าไถ่เป็นเงินคริปโต กว่า 1,000,000 USDT หรือประมาณ 35 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค.65 นายเหริน สามารถหลบหนีออกมาจากที่กุมขังได้ และได้รับการช่วยเหลือจนพ้นอันตราย

          จากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุม 2 ผู้ต้องหาได้ คือ

1. นายจาง เต๋อ หลง หรือต้าเต้า อายุ 30 ปี สัญชาติจีน (จับกุม 2 พ.ย.65)

2. นายจาง เหวิน เจี๋ย หรือ อาถัง อายุ 27 ปี สัญชาติจีน (จับกุม 2 พ.ย.65)

         เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีความผิดฐาน ร่วมกันเรียกค่าไถ่ โดยเอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปีไป โดยใช้กลอุบายหลอกลวง หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกักขังบุคคลที่เอาตัวไป เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือผู้ถูกกักขังนั้นรับอันตรายสาหัส, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น,ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทำให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายสาหัสและร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

         จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุและนายเหริน ได้เคยร่วมกันทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยกันมาก่อน ต่อมามีความขัดแย้งกันในเรื่องของผลประโยชน์ ทำให้ต้องแยกย้ายกัน และวันที่เกิดเหตุ ได้นัดเจอกันเพื่อจะพูดคุยเรื่องผลประโยชน์กัน ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหาจะตัดสินใจลักพาตัวนายเหรินเพื่อเรียกค่าไถ่ดังกล่าว

         พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิกถอนวีซ่าของนายเหรินและน้องชาย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดความขัดแย้งดังกล่าว ผลักดันกลับประเทศ และจะพิจารณาขึ้นบัญชีในการห้ามเดินทางเข้าประเทศต่อไป

         ส่วนแก๊งผู้ก่อเหตุ จะสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อดูว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่ หากพบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมก็จะนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป

#แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน

CR:กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ