Chonburi Sponsored

รมต.สุชาติ ปลื้ม เจ้าชายซาอุดิอาระเบีย ทรงสอบถามเรื่องพ่อไปเป็นกรรมกรขายแรงงาน – TOPNEWS

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

“รมต.เฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กลุ่มบ้านใหม่ชลบุรี เจ้าของสโลแกนเด็ด “พวกกัน สำคัญเสมอ” โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุคส่วนตัว ระบุว่า “เรื่องเล่าจากภาพครับ

“ลุงตู่” ได้ให้คนมาเชิญผม ไปเจอท่าน มกุฎราชกุมาร ซาอุดีอาระเบีย อย่างใกล้ชิด ท่านทรงสอบถามให้ความสนใจ เรื่องราวคุณพ่อ ที่เป็นข่าวดัง ว่า รมต. แรงงาน ประเทศไทย เป็นลูกชาย อดีตกรรมกร ช่างก่อสร้าง แรงงานไทยที่ไปสร้างความเจริญให้ ซาอุดีอาระเบีย เมื่อ38 ปีที่แล้ว ท่านทรง ให้ความสนพระทัย ขอดูรูปคุณพ่อที่เก็บไว้ และ รมต. แรงงาน ซาอุดีอาระเบีย ได้เชิญคุณพ่อ ไปซาอุดีอาระเบีย เดี๋ยวท่านจะพาไปเที่ยวสนามกีฬาที่คุณพ่อเคยมาเป็นกรรมกรก่อสร้าง ด้วยครับ”

และเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 พ.ย.65 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้เดินทางมาที่สนง.พรรคพลังประชารัฐ เขต.1จ.ชลบุรี เพื่อมารับเรื่องข้อร้องเรียนจากชาวบ้าน ม.8 ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มนายทุนได้มาสร้างโรงงานบีบอัดเหล็กโละในพื้นที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อชุมชนและสร้างมลพิษกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากบริเวณที่ก่อสร้างโรงงานเป็นพื้นที่สีเขียวและอยู่กลางชุมชน ซึ่งนายสุชาติ ได้รับเรื่องไว้เพื่อประสานกับอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และจังหวัดชลบุรีให้ดูแลแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน

นอกจากนี้ นายสุขาติยังได้พูดถึงการประชุมเอเปคให้ชาวบ้านได้รับฟัง ว่าเป็นประโยชน์กับประเทศชาติในด้านต่างๆ โดยนายสุชาติได้กล่าวว่า “การประชุมเอเปค เป็นเรื่องของประเทศชาติ ไม่เกี่ยวกับการเมือง วอนนักการเมืองต้องอดทน อีกไม่นานก็จะมีการเลือกตั้ง ต้องเห็นแก่ประเทศชาติ ต้องรักษาหน้าตาของคนไทย ประเทศไทย ที่เราควรภาคภูมิใจ การที่จะมีความเห็นต่างก็ต้องเคารพสิทธิของคนอื่น การเป็นประชาธิปไตยก็ต้องเคารพสิทธิของคนอื่นด้วย คนชอบคิดว่าประชาธิปไตยแต่มันก็ต้องเคารพสิทธิคนอื่น อย่างเราจะเปิดเพลงดังๆในบ้านดังเท่าไรก็ได้บอกว่าเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย มันก็ใช่แต่เราก็ต้องคำนึงนึกถึงเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงด้วยว่าเขาจะเดือดร้อนรำคาญหรือเปล่า ไม่ใช่เปิดเพลงโดยไม่คิดถึงคนอื่น”
นายสุชาติ ยังได้พูดถึงความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิฯ ที่ห่างเหินยาวนานถึง 32 ปี ย้อนคืนความสัมพันธ์สำเร็จ ในรัฐบาล “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นอย่างมาก

นายสุชาติ ยังได้พูดถึงความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิฯ ที่ห่างเหินยาวนานถึง 32 ปี ย้อนคืนความสัมพันธ์สำเร็จ ได้ในรัฐบาล “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และยังเป็นความภาคภูมิใจในฐานะที่ตัวผมเป็นรมว.แรงงาน เป็นลูกชายกรรมกรก่อสร้างจากจ.ชลบุรีคนหนึ่ง ที่พ่อผมเคยไปเป็นกรรมกรขายแรงงานเมื่อ 38 ปีก่อนจนกลับมาสร้างเนื้อสร้างตัว เลี้ยงครอบครัวได้

ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี

Chonburi Sponsored
อำเภอ พนัสนิคม

สมัยเมืองพนัสนิคม ในปี พ.ศ. 2371 กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทรา พระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน“พนัศนิคม”) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิสาร (บางเอกสารเขียน”อินทพิศาล”) หรือ ท้าวทุม ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน”ศรีวิไชย”) อุปราชเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน“อินทรอาษา, อินทอาสา, อินทราษา“) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) โดยลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม อ้างถึงการอพยพมาสยามครั้งแรกนำโดยท้าวไชย อุปราชเมืองนครพนม เป็นโอรสในพระบรมราชา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม (เมืองนครพนมในอดีต เป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ประเทศราชของสยาม) ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมคนใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน ลาวนครพนมกลุ่มนี้ได้บุกเบิกสร้างเมืองพนัสนิคม