Chonburi Sponsored

หนุ่มรัสเซียเที่ยวเมืองพัทยา ก่อนพบเป็นศพผูกคอเสียชีวิตปริศนากลางป่า – TOPNEWS

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

เวลา 15.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ร.ต.ท. มินทราทิตย์ ทองใสรอง.สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ได้รับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติ ผูกคอตายภายในป่า ใกล้กับถนนสาย 331 ( สัตหีบ-นครราชสีมา ) หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.วัดญาณสังวราราม และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา รีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุภายในป่าหญ้า โดยห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร พบศพชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อต่อมา คือ นาย เซอร์เก้ สเปกัลสกี้ ( Mr.Sergei Spegalskii ) อายุ 31 ปี ชาวรัสเซีย สวมเสื้อสีเขียว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใช้เชือกไนลอนสีขาวผูกคอตัวเอง ส่วนปลายเชือกผูกมัดติดกับกิ่งต้นไม้ขนาดใหญ่ จนสภาพศพลิ้นจุกปาก ขาห้อยโตงเตง ตามร่างกายตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม. ห่างจากศพประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีแดง ทะเบียน 1 กณ 524 ชลบุรี สภาพจอดตะแคงข้างอยู่ในไร่มันสำปะหลัง และ ยังพบผ้าขนหนูสีน้ำเงิน เสื้อผ้า จำนวน 3 ชิ้น วางกองอยู่รวมกัน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นางสาวกาญจนภา สุดพุ่ม อายุ 48 ปี พนักงานร้านก๋วยเตี๋ยว ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ชาวต่างชาติดังกล่าว ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเย็นเวลา 18.30 น. ของเมื่อวาน ( 9 พ.ย. ) ได้มากินก๋วยเตี๋ยว โดยอาการทั่วไป คล้ายคนหวาดระแวง สายตาจะคอยมองไปรอบๆร้านตลอดเวลา ก่อนจะออกจากร้านไปช่วงเวลาเกือบ 1 ทุ่ม จนกระทั่งในวันนี้ เวลาประมาณบ่ายๆ ก็มีคนวิ่งมาให้ช่วยแจ้งตำรวจว่าพบชาวต่างชาติผูกคอตายในป่า ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่มากินก๋วยเตี๋ยวเมื่อวานนี้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว

ด้านตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบ ว่าชาวรัสเซียรายนี้ ว่าเดินทางเข้าประเทศเมื่อวันที่เท่าไหร่ เบื้องต้นพบว่า รถจักรยานยนต์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เป็นรถที่ผู้ตายเช่ามาจาก พื้นที่เมืองพัทยา แล้วขี่มาก่อเหตุฆ่าตัวตาย ซึ่งห่างจากตัวเมืองพัทยาถึง 26 กม. พร้อมทั้งประสานสถานฑูตรัสเซียประจำประเทศไทย เพื่อตรวจหาญาติ สันนิษฐานว่าเกิดความเครียดเรื่องอะไรบางอย่าง จนมาก่อเหตุผูกคอตายเสียชีวิต ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ได้ส่งให้ สถานบันนิติเวชวิทยากำลังผ่าชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง เพื่อยืนยันสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี

Chonburi Sponsored
อำเภอ สัตหีบ

ช่วงประมาณรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 สัตหีบเป็นเพียงหมู่บ้านชายทะเล ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา หาของป่า และประมง การคมนาคมจะใช้ทางน้ำโดยเรือเมล์หรือเรือใบ ส่วนทางบกมีแต่ทางเกวียน ถนนไปชลบุรียังไม่มี ภูมิประเทศส่วนใหญ่ยังเป็นป่ารกทึบ การเดินทางระหว่างเมืองจึงใช้เรือเป็นหลัก ในหมู่บ้านสัตหีบ มีผู้ที่ชาวบ้านนับหน้าถือตามากอยู่คนหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "ยายแจง" แกมีฐานะดีมี ที่ดิน เรือ สวน ไร่นามากมาย ตลาดสัตหีบ หนองตะเคียนและโรงเรียนสิงห์สมุทรรวมถึงบริเวณเขาแหลมเทียนอันเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือสัตหีบในปัจจุบันก็เคยเป็นของแก ต่อมา เมื่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทรงฝึกภาคทะเลกับกองเรือและทรงพักที่อ่าวสัตหีบ ทรงเห็นว่าอ่าวสัตหีบเหมาะเป็นที่ตั้งหน่วยเรือ เพราะมีเกาะใหญ่น้อยช่วยกำบังคลื่นลม พระองค์จึงได้บอกถึงพระประสงค์ที่จะใช้บริเวณเขาแหลมเทียนเป็นที่ตั้งหน่วยทหารเรือ ยายแจงก็ยินดีที่จะถวายให้