Chonburi Sponsored

แค้นแทนพ่อ ลูกชายยกพวกพกมีดแทงพ่อค้าลูกชิ้น เจ็บสาหัส จ.ชลบุรี

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

สนามข่าว 7 สี – เหตุการณ์นี้เกิดจากความแค้น ไม่ได้แค้นของตัวเอง แต่แค้นแทนพ่อ ลูกชายพาเพื่อน 4-5 คน มารุมทำร้ายแทงพ่อค้าลูกชิ้นขาพิการบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีไป ต้นเหตุมาจากก่อนหน้านั้นพ่อมีเรื่องชกต่อยกับพ่อค้าลูกชิ้น ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีการใช้อาวุธมีดแทงกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากทางเข้าสนามกอล์ฟพลูตาหลวง พื้นที่หมู่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จึงรีบนำกำลังชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน ไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือชายอายุ 52 ปี พ่อค้าลูกชิ้นทอด ซึ่งพิการขาข้างซ้าย ถูกอาวุธมีดแทงบริเวณชายโครงข้างซ้ายและขวา นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายลูกชิ้น อาการสาหัส จึงได้ช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้บาดเจ็บมีปากเสียงกับ นายเด่น วินจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรื่องการมาจอดรถขายของ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ นายเด่น และผู้บาดเจ็บ ได้มีปากเสียงถึงขั้นชกต่อย ทำร้ายร่างกายกัน ตอนนั้นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นได้เข้าไปช่วยมาห้ามปรามแยกทั้งคู่ออกจากกัน จากนั้น นายเด่น จึงได้โทรศัพท์ตามลูกชายมาที่เกิดเหตุ โดยลูกชายของนายเด่นไม่ได้มาเพียงคนเดียว แต่พาเพื่อนมาด้วย 4-5 คน จากนั้นก็มารุมทำร้ายร่างกายพ่อค้าลูกชิ้นทอด โดยได้มีการใช้อาวุธมีดแทงผู้บาดเจ็บหลายครั้งจนผู้บาดเจ็บล้มลง จากนั้นจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

โดยเรื่องที่เกิดขึ้น ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ได้ทราบตัวกลุ่มคนร้ายแล้ว ขณะนี้กำลังเร่งติดตามตัวให้เข้ามามอบตัว หากไม่มาจะได้ออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Chonburi Sponsored
อำเภอ สัตหีบ

ช่วงประมาณรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 สัตหีบเป็นเพียงหมู่บ้านชายทะเล ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา หาของป่า และประมง การคมนาคมจะใช้ทางน้ำโดยเรือเมล์หรือเรือใบ ส่วนทางบกมีแต่ทางเกวียน ถนนไปชลบุรียังไม่มี ภูมิประเทศส่วนใหญ่ยังเป็นป่ารกทึบ การเดินทางระหว่างเมืองจึงใช้เรือเป็นหลัก ในหมู่บ้านสัตหีบ มีผู้ที่ชาวบ้านนับหน้าถือตามากอยู่คนหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "ยายแจง" แกมีฐานะดีมี ที่ดิน เรือ สวน ไร่นามากมาย ตลาดสัตหีบ หนองตะเคียนและโรงเรียนสิงห์สมุทรรวมถึงบริเวณเขาแหลมเทียนอันเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือสัตหีบในปัจจุบันก็เคยเป็นของแก ต่อมา เมื่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทรงฝึกภาคทะเลกับกองเรือและทรงพักที่อ่าวสัตหีบ ทรงเห็นว่าอ่าวสัตหีบเหมาะเป็นที่ตั้งหน่วยเรือ เพราะมีเกาะใหญ่น้อยช่วยกำบังคลื่นลม พระองค์จึงได้บอกถึงพระประสงค์ที่จะใช้บริเวณเขาแหลมเทียนเป็นที่ตั้งหน่วยทหารเรือ ยายแจงก็ยินดีที่จะถวายให้