Chonburi Sponsored

นักธุรกิจหนุ่มวัย 32 ควบ BMW ซีรีส์ 5 เสียบใต้ท้องรถพ่วง 18 ล้อกำลังกลับรถ เสียชีวิต

Chonburi Sponsored
Chonburi Sponsored

เจ้าของหมู่บ้านจัดสรร ซิ่งบีเอ็มชนสนั่นกลางยูเทิร์น มุดใต้ท้องรถพ่วง 18 ล้อตายคาที่

เมื่อเวลา 19.30 น. ร.ต.อ.เนวิน สุนทวนิค รอง.สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันตาย บริเวณยูเทิร์นกลับรถบ้านเนินเขา ถนนสาย 331 สัตหีบ-นครราชสีมา (โคราช) ระหว่างหลัก กม.ที่ 23-24 หมู่ 13 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุเป็นจุดยูเทิร์นกลับรถ ไม่มีแสงไฟส่องทาง อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีรถติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร ตรวจสอบพบรถเก๋ง BMW ซีรีส์ 5 สีดำ ทะเบียน 1 ขด 6106 กทม. สภาพรถเสียบคาอยู่ใต้รถพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 72-3567 ระยอง โดยสภาพรถเก๋งถูกอัดก๊อบปี้อยู่ใต้ท้องรถพ่วง สภาพพังยับเยินทั้งคัน ตรวจสอบภายในซากรถ บริเวณฝั่งที่นั่งคนขับ พบศพนายกฤษดา พยุงผล อายุ 32 ปี ร่างอัดคาพวงมาลัย เสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยาต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมาใช่เวลานานกว่า 1 ชม.

จากการสอบสวน นายอภิศักดิ์ พระคำจันทึก อายุ 41 ปี คนขับรถพ่วงประจำบริษัท เอส วัน โลจิสติกส์ จำกัด เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ กำลังจะเดินทางไป อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พอมาถึงที่เกิดเหตุ ระหว่างที่กำลังจะยูเทิร์นกลับรถ ในขณะนั้น ตนมั่นใจว่าไม่มีรถวิ่งมาทางตรงแล้ว แต่ปรากฏว่าระหว่างกำลังจะกลับรถจากจุดยูเทิร์น รถเก๋งคันดังกล่าวซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำอย่างจังจนมีผู้เสียชีวิต

ด้านตำรวจ เบื้องต้นได้ควบคุมตัวคนขับรถพ่วงไปทำการสอบปากคำ พร้อมทั้งตั้งข้อกล่าวว่า ขับขี่โดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนสาเหตุ เชื่อว่ารถเก๋งน่าจะมองไม่เห็นรถพ่วงที่กำลังกลับรถ เนื่องจากที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดมาก จนทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

สำหรับนายกฤษดา ผู้เสียชีวิต เป็นนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล เจ้าของหมู่บ้านโครงการ The Wild และบริษัทรับเหมาออกแบบ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่

Chonburi Sponsored
อำเภอ สัตหีบ

ช่วงประมาณรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 สัตหีบเป็นเพียงหมู่บ้านชายทะเล ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา หาของป่า และประมง การคมนาคมจะใช้ทางน้ำโดยเรือเมล์หรือเรือใบ ส่วนทางบกมีแต่ทางเกวียน ถนนไปชลบุรียังไม่มี ภูมิประเทศส่วนใหญ่ยังเป็นป่ารกทึบ การเดินทางระหว่างเมืองจึงใช้เรือเป็นหลัก ในหมู่บ้านสัตหีบ มีผู้ที่ชาวบ้านนับหน้าถือตามากอยู่คนหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "ยายแจง" แกมีฐานะดีมี ที่ดิน เรือ สวน ไร่นามากมาย ตลาดสัตหีบ หนองตะเคียนและโรงเรียนสิงห์สมุทรรวมถึงบริเวณเขาแหลมเทียนอันเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือสัตหีบในปัจจุบันก็เคยเป็นของแก ต่อมา เมื่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทรงฝึกภาคทะเลกับกองเรือและทรงพักที่อ่าวสัตหีบ ทรงเห็นว่าอ่าวสัตหีบเหมาะเป็นที่ตั้งหน่วยเรือ เพราะมีเกาะใหญ่น้อยช่วยกำบังคลื่นลม พระองค์จึงได้บอกถึงพระประสงค์ที่จะใช้บริเวณเขาแหลมเทียนเป็นที่ตั้งหน่วยทหารเรือ ยายแจงก็ยินดีที่จะถวายให้