08 ต.ค. 2565 | 05:51:17
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2565
>> นานาประเทศร่วมแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรม ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู
09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย แสดงความสะเทือนใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู นายแอนโทนี บลิงเคน (รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ) กล่าวว่า “เราเศร้าสลดอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ในจังหวัดหนองบัวลำภู ความรุนแรงนี้ไร้ซึ่งเหตุผลและทำให้เราใจสลาย เรายืนหยัดเคียงข้างชาวไทยและขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่สูญเสีย บุคคลอันเป็นที่รักในวันนี้ สหรัฐอเมริกาพร้อมช่วยเหลือพันธมิตรชาวไทยของเราภายหลังโศกนาฏกรรมครั้งนี้”
สถานเอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์กราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ “ในนามของชาวรัสเซียทุกคน เราขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้”
นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ทวิตแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับกระทบทุกคน “ส่งความห่วงใยไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย สหราชอาณาจักรยืนหยัดเคียงข้างไทย ในช่วงเวลาอันน่าหดหู่นี้”
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ขอร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจต่อกรณีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่จังหวัดหนองบัวลำภูของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีข้อความจากผู้นำประเทศและกระทรวงการต่างประเทศของนานาประเทศ ร่วมแสดงความเสียงใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วย
>> ผบ.ตร. ถอดบทเรียนตำรวจกราดยิง พร้อมวางมาตรการการมีอาวุธปืนของตำรวจในและนอกราชการ
11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ยืนยันว่า หลังจากนี้ จะนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาถอดบทเรียน เพิ่มมาตรการเข้มงวดกับข้าราชการตำรวจ ทั้งที่อยู่ในราชการและนอกราชการ เกี่ยวกับการมีและครอบครองอาวุธปืน โดย สตช. มีแนวคิดจะหารือกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการขอมีขอใช้อาวุธปืนของตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง โดยให้ถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วน พร้อมได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ เพิ่มมาตรการดูแลป้องกันเหตุคุ้มคลั่ง รวมทั้ง ปัญหายาเสพติดจะต้องกวาดล้างให้หมดทั้งเครือข่ายใหญ่และรายย่อยโดยเฉพาะ ปัญหาการแพร่ระบาดในชุมชน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเพิ่มความเข้มในการตรวจสุขภาพของข้าราชการตำรวจ มากกว่าการตรวจประจำปีแค่ครั้งเดียว โดยเฉพาะ การตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ส่วน ส.ต.อ.ปัญญา กำราบ อดีตตำรวจที่ก่อเหตุ จากการตรวจสอบประวัติตั้งแต่สมัครเข้ารับราชการ ไม่พบว่า มีสารเสพติดในร่างกาย รวมถึง ขณะปฏิบัติหน้าที่ที่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวาและลุมพินี ก่อนจะย้ายไปที่สถานีตำรวจภูธรนาวังไม่มีประวัติ จนกระทั่งถูกจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีคำสั่งให้ออกจากราชการ ส่วนผลการตรวจเลือดหาสารเสพติด อยู่ระหว่างรอผลจากแพทย์นิติเวชฯ
>> รองนายกฯ กำชับหน่วยงานความมั่นคงทุกระดับ เข้มกำกับเจ้าหน้าที่รัฐครอบครองอาวุธ ป้องกันก่อเหตุรุนแรง
12.00 น. พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรอง นรม.เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่รัฐ ก่อเหตุใช้อาวุธกับประชาชนที่เกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.กล่าวแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทุกราย พร้อมทั้งได้กำชับไปยังหน่วยงานความมั่นคง ให้หัวหน้าหน่วยงานทุกระดับ ให้ความสำคัญทบทวนและกวดขันมาตรการควบคุมกำกับเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน ที่ครอบครอง มีและใช้อาวุธให้มากขึ้น
โดยให้พิจารณาเพ่งเล็งเจ้าหน้าที่ที่มีความเครียด หรือมีอาการป่วยจากสภาวะทางจิตประสาท หรือจากปัญหายาเสพติด เพื่อแยกบำบัดรักษาและกำกับให้อยู่ในการดูแลของแพทย์จนปกติ ทั้งนี้ขอให้ความสำคัญไปถึงกระบวนการคัดกรองเข้ารับเข้าราชการ ที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับประวัติบุคคล เพื่อป้องกันมิให้มีการก่อเหตุรุนแรงทางสังคม ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นอีก
>> กรมราชทัณฑ์ ไล่ออก 2 ผู้คุม ปมเรียกรับผลประโยชน์ และลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ
13.19 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยผลประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกรมราชทัณฑ์ ครั้งที่ 6/2565 เพื่อพิจารณาลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดวินัย มีพฤติการณ์ที่เสื่อมเสีย ทำให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โดยที่ประชุมมีมติไล่ออกจากราชการ 2 คน กรณีปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริตและประพฤติชั่วร้ายแรง รายแรกกระทำผิดลักลอบนำสิ่งของต้องห้าม และสิ่งของไม่อนุญาตให้มีในครอบครอง เข้าไปให้ผู้ต้องขังเพื่อใช้ในการก่อเหตุหลบหนีออกจากเรือนจำ โดยได้รับประโยชน์ตอบแทน และลักลอบนำยาเส้นเข้าไปให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยได้รับประโยชน์ตอบแทน
ส่วนรายที่สองมีพฤติการณ์ อาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้กับตนเองหรือผู้อื่น โดยติดต่อและพูดคุยกับผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเรียกรับเงินและผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ในการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในเรือนจำและนำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในงานราชทัณฑ์เป็นหนึ่งในนโยบายเน้นหนักที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งต่อตนเองและต่อหน้าที่ราชการ และได้เน้นย้ำให้ผู้บริหารงานเรือนจำ/ทัณฑสถานทุกแห่ง หมั่นสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีการทุจริต หรือการกระทำผิดเกิดขึ้น หากพบว่าผู้ใดกระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่เจ้าหน้าที่รายอื่น
>> นายกฯ วางดอกไม้ไว้อาลัยเหยื่อความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมมอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้ประสบเหตุ
14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อพูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้ประสบเหตุความรุนแรงในพื้นที่ โดยได้วางดอกไม้เพื่อแสดงความไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรง บริเวณด้านหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์
จากนั้นได้พูดคุยและให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินกองทุนผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ประสบเหตุ ทั้ง 46 ครอบครัว ครอบครัวละ 200,000 บาท รวม 9,200,000 บาท กระทรวงยุติธรรม มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา รวม 3,960,000 บาท กระทรวงพัฒนาสังคมฯ มอบเงินช่วยเหลือ รวม 460,000 บาท กระทรวงแรงงาน มอบเงินประกันสังคมให้กับเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตในการปฎิบัติหน้าที่ รวม 2,425,555 บาท พร้อมเครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภูร่วมระดมทุนช่วยเหลือ
>> รถจยย.พลิกคว่ำ ผู้ขับขี่เสียชีวิต
14.34 น. รับแจ้งจาก สภ.ชะอำ เกิดอุบัติเหตุ บริเวณแยกคันคลองดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน เพชรบุรี ลักษณะพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กับพบว่าผู้ขับขี่ได้เสียชิวิตแล้ว ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อต่อมา ชื่อนาย ศักดิ์ดา อายุ 51 ปี ภูมิลำเนา ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน
>> รถจยย.ฝ่าไม้กั้น ถูกม้าเหล็กพุ่งชนดับ
15.00 น. สภ.หนองปรือ รับแจ้งอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่แยกทางรถไฟ ซอยข้างโรงเรียนเมืองพัทยา 7 ต.หนองปรืออ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยที่เกิดเหตุ พบรถไฟขบวนเลขที่ 284 พลูตาหลวง กรุงเทพมหานคร จอดห่างจากแยกประมาณ 100 เมตร บริเวณพงหญ้าริมรางรถไฟยังพบร่าง นางทองเหมาะ อายุ 60 ปี เสียชีวิตคาที่ เจ้ากันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สกูปปี้ สีชมพูหมายเลขทะเบียน ชลบุรี ถูกชนกระเด็นได้รับความเสียหายยับเยิน
เบื้องต้นเจ้าพนักงานสอบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เคลื่อนย้ายเก็บรักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง เพื่อให้ญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
>> ก.พาณิชย์ ย้ำ ร้านธงฟ้า ห้ามฉวยโอกาส รับแลกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ขึ้นราคาสินค้า ตรวจเจอเพิกถอนสิทธิ
17.00 น. นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ร้านธงเป็นกลไกสำคัญในการเข้าถึงสิทธิของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับการซื้อสินค้าราคาประหยัดตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 130,850 ร้านค้า และได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปว่า มีร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) บางแห่งมีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น รับแลกวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้ คิดค่าบริการกับลูกค้าที่ชำระสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (หักค่าหัวคิว) ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า ประกอบกับ วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับวงเงินเข้าบัตรฯ เพื่อซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค จำนวน 200-300 บาทต่อคน กรมการค้าภายในจึงได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนถูกเอาเปรียบ
หากพบว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร จะมีโทษตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และขอฝากถึงร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่าได้มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค หากถูกร้องเรียนและตรวจสอบพบว่ากระทำผิดจะถูกเพิกถอนสิทธิการเป็นร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และถูกตัดสิทธิการรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
>> ไฟลุกท่วมโกดัง ไหม้วอดเจ็ทสกี 10 คัน และ รถบักกี้
19.30 น. สภ.กร่ำ ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ โกดังจอดเจ็ทสกี และ รถบักกี้ ภายในซอยสหกรณ์ ม.4 ต.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง จึงประสานหน่วยดับเพลิง เทศบาลตำบลสุนทรภู่ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์ เดินทางไปสกัดเพลิงทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโกดังขนาดใหญ่ที่ปิดทึบด้วยเมทัลชีท พบเปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่ภายในโกดัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงเข้าสกัดต้นเพลิงทันที ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสาย พบไฟกำลังลุกท่วม เจ็ทสกี และ รถบักกี้ ที่จอดอยู่ในโลกดังจำนวนหลายคัน โดยไฟได้ลุกโชนอย่างรุนแรง เพราะรถทุกคันมีเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันเบนซินอยู่ จึงทำให้ไฟลุกอย่างรวดเร็วและรุนแรง ใช้เวลาดับไฟประมาณ 30 นาที จึงสามารถดับไฟไว้ได้ แต่ก็ยังคงมีกลุ่มควันระอุอยู่ จึงได้ฉีดน้ำหล่อไว้ จนกระทั่งดับสนิท
จากการตรวจสอบสภาพโกดังถูกไฟเผาจนวอดไปทั้งหลัง สำหรับทรัพย์สินถูกไฟเผา ประกอบด้วย รถเจ็ทสกี จำนวน 10 คัน รถบักกี้ จำนวน 10 คัน ที่มาจอดไว้ เพื่อนำไปบริการนักท่องเที่ยวภายในรีสอร์ต ซึ่งถูกไฟเผาเสียหายทั้งหมด
>> “ในหลวง – พระราชินี” เสด็จฯ เยื่ยม และทรงเป็นกำลังใจ ครอบครัวผู้สูญเสียลูก-หลานเหตุกราดยิง
20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโศกนาฏกรรมในจังหวัดหนองบัวลำภู ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอุดรธานี
โดยก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ. สุรยุทธ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อม ๓ องคมนตรี พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ดร.อำพน กิตติอำพน ไปเยี่ยมครอบครัวผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงศูนย์เด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู ณ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณารับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด
>> คันดินพัง น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตำบลโพสะ อำเภอเมืองอ่างทอง
20.00 น. นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่และบัญชาเหตุการณ์คันดินพังทะลายส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ตำบลโพสะ โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอ่างทองเข้าร่วมติดตามสถานการณ์
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น.นายนรินทร์ อร่ามโชติ ปลัดอำเภอ รักษาการนายอำเภอเมืองอ่างทอง พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ สมาชิก อส. ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น เร่งตรวจสอบคันดินกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาพังทะลายทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ตำบลโพสะ อำเภอเมืองอ่างทอง ส่งผลให้บ้านเรือนที่คาดว่าจะเสียหายทั้งหลังจำนวน 2 หลังคาเรือน และบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบประมาณ 65 หลังคาเรือน โดยมีระดับสูงจากพื้นบ้านเรือนประมาณ 3 เมตร
ทั้งนี้ สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทองได้นำเรือท้องแบนจำนวน 4 ลำเข้าพื้นที่เพื่อช่วยลำเลียงผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงออกจากพื้นที่ และขนย้ายสิ่งของ เครื่องใช้ต่าง ๆ ของประชาชนผู้ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้บาดเจ็บเพศหญิง 1 รายจากการตกเรือ ซึ่งขณะนี้โดยรอบพื้นที่เทศบาลตำบลโพสะ ได้ปิดกั้นจุดล่อแหลมที่อาจส่งผลเป็นวงกว้างเรียบร้อยแล้ว
>> แผ่นดินไหว ที่เมียนมา
01.50 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหวขนาด 2.8 แมกนิจูด ความลึก 3 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 81 กม. ไม่มีผลกับประเทศไทย
>> รถจยย. ชนเสาไฟและป้ายโฆษณา เสียชีวิต
03.45 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุ ถนนคู่สร้าง บริเวณใกล้เคียงทางเข้าวัดคู่สร้าง ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ
โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ จีพีเอ็กซ์ รีเจ้นท์ สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน เสียหลักชนเสาไฟแล้วป้ายโฆษณาข้างทาง ความรุนแรงทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิต ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อต่อมา นาย ชลธี อายุ 22 ปี ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 625,890,259 ราย รักษาอาการดีขึ้น 605,466,116 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,558,884 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 98,487,897ราย เสียชีวิต 1,087,468 คน (เพิ่มขึ้น 118 คน)
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,606,460 ราย เสียชีวิต 528,754 คน (เพิ่มขึ้น 9 คน)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 35,766,357 ราย เสียชีวิต 155,422 คน (เพิ่มขึ้น 53 คน)
4. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 34,750,108 ราย เสียชีวิต 686,759 คน (เพิ่มขึ้น 119 คน)
5. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 33,826,367 ราย เสียชีวิต 150,406 คน (เพิ่มขึ้น 117 คน)
Share this: