พระนครศรีอยุธยา – หวิดดับ ! ครู กศน.เปิด GPS นำทางขับรถมากับเพื่อนหญิงผ่านถนนสายเอเชีย ช่วง หลัก กม.ที่ 24 ต. หันตรา อ. พระนครศรีอยุธยา ขณะนั้นมีรถแซงขวาอยู่ๆถูกวัตถุของแข็งกระแทกกระจกหน้ารถอย่างจังโร่แจ้งตำรวจตรวจสอบ
เวลา 20.30 น.วันนี้( 29 ก.ย.) พ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปะเตมีย์ สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวขับรถยนต์เก๋งถูกวัตถุไม่ทราบชนิดกระแทกใส่กระจกหน้ารถได้รับความเสียหายเหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย ขาล่องเข้ากรุงเทพหลัก กม.ที่ 24 ช่วงบนกลางสะพานรถไฟบ้านม้า ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Mazda 2 สีเลือดหมูหมายเลขทะเบียน งท 7141 ชลบุรี สภาพบริเวณด้านหน้ากระจกรถ ฝั่งคนขับมีร่องรอยกระจกร้าว เป็นวงกว้าง เกือบแตกอย่างเห็นได้ชัด โดยมีนางสาว ฐิติพร พาสี อายุ 29 ปี อาชีพครู กศน.อำเภอบางไทร ชาวบางละมุง จังหวัดชลบุรี และเพื่อนหญิงยืนกันอยู่ 2 คน ยังอยู่ในอาการตกใจ
สอบถามนางสาวฐิติพร เล่าว่า ตนเองได้ขับรถมากับเพื่อน 2 คน โดยเปิดสัญญาณ มือถือ GPS นำทางออกมาจากอำเภอท่าเรือ หลังจากไปส่งเพื่อน ผ่านอำเภอบางปะหัน ใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าไปอำเภอบางปะอิน โดยวิ่งอยู่ช่องทางเลนที่ 3 พอมาถึงบริเวณช่วงกลางสะพานขาลงข้ามรางรถไฟบ้านม้า มีรถยนต์ 2 คันขับแซงขวาขึ้น คันแรกไม่แน่ใจ คันที่ 2 เป็นรถกระบะ พอคันที่ 2 พ้นไป จากนั้นเหมือนมีวัตถุ บางอย่างกระแทกใส่กระจกหน้ารถดังสนั่นตนเอง และเพื่อนตกใจแต่รวบรวมสติแล้วรีบขับประคองรถชิดซ้ายลงมาจากสะพานแล้ว เข้าช่องทางคู่ขนาน เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันเพื่อหาที่ปลอดภัย
จากนั้นก็รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มายังถึงเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบว่าเรื่องอะไร แต่มั่นใจไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอย่างแน่นอน เพราะตนเองเป็นครู ไม่เคยมี เรื่องบาดหมางกับใคร แต่ก็ไม่รู้ว่าวัตถุที่กระแทกใส่กระจกหน้า รถเก๋ง นั้นเป็นวัตถุของแข็งชนิดอะไร แต่ความรู้สึกส่วนตัวคิดว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุจากความคึกคะนอง หรือเกิดจากการใช้รถใช้ถนนร่วมกันอาจจะทำให้ คนขับรถไม่พอใจ หรือไม่แต่ตนมั่นใจว่าไม่ได้ขับรถปาดหน้า และไม่ได้ขับไว แต่ก็โชคดีเหตุการณ์นี้กระจกไม่แตกไม่เช่นนั้นไม่อยากคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้พาผู้เสียหายเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณกลางสะพานเพื่อหาวัตถุ ที่มากระแทกกระจกหน้ารถ แต่ไม่พบเศษวัตถุอะไรบนถนนและริมถนนข้างในพงหญ้า จึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งให้ประสานติดต่อประกันรถเพื่อให้นำรถไปซ่อมแซมต่อไป